เรียกได้ว่าสั่นสะเทือนวงการกับ กลยุทธ์ “กล่องสุ่ม” ที่ฮอตฮิตได้รับความนิยมเหลือเกินในขณะนี้ โดยเฉพาะธุรกิจ Micro SME ที่หันมาใช้ “กล่องสุ่ม” เป็นดัวดันยอดขาย ซึ่งในที่นี้หลายๆ คนก็อาจจะยังมีข้อสงสัยว่าเจ้ากล่องสุ่มเนี่ย คืออะไรและทำไมมันถึงได้ฮอตฮิตขนาดนี้ วัน SME กล้าให้ จะพาคุณไปหาคำตอบกัน

กลยุทธ์กล่องสุ่มคืออะไร?

การนำสินค้าหลากหลายมาบรรจุใส่กล่องแบบสุ่ม เพื่อจำหน่ายให้แก่ลูกค้าในราคาเดียวกันทุกกล่องไม่ว่าในกล่องนั้นจะมีสินค้าอะไรก็ตาม ลูกค้าจะไม่มีทางทราบได้เลยว่าสินค้าที่จะตนเองจะได้ซื้อมาคืออะไรจนกว่าจะได้เปิดกล่องสุ่มที่ซื้อมา โดยมีจุดเด่นหลักที่ทำให้ฮอตฮิตติดลมบนได้ 2 จุดใหญ่ๆ

1. สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า 
แน่นอนว่าการที่ลูกค้าไม่รู้ว่าสินค้าที่ตนจะได้รับจากกล่องซื้อคืออะไร ย่อมทำให้รู้สึกตื่นเต้น และเมื่อเปิดกล่องออกมาได้สินค้าที่เหนือความคาดหมาย ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกไปในทางบวก ทั้งสนุก ลุ้น และมีความสุข 

2. ให้ความรู้สึกคุ้มค่า 
ตามปกติกล่องสุ่มมักจะมีสินค้าหลายชิ้นหรือมีสินค้าที่มีมูลค่ามากกว่าราคาของกลุ่มสุ่ม ทำให้เมื่อลูกค้าซื้อและเปิดกล่องจะรู้สึกคุ้มค่า เมื่อได้รับสินค้าจากกล่องสุ่ม

ทำไมต้องกลยุทธ์กล่องสุ่ม

1. ดันยอดขาย ระบายสินค้า
เพราะลูกค้ามีสินค้าที่ต้องการ แต่ในการซื้อกล่องสุ่มลูกค้าไม่รู้ว่าจะได้อะไร ลูกค้าอาจยังไม่ได้สินค้าที่ต้องการจากการซื้อกล่องสุ่มกล่องเดียว จึงสามารถทำให้เกิดการซื้อครั้งละหลายๆ กล่อง เพราะถึงแม้จะไม่ได้ของที่ต้องการ แต่ลูกค้าก็ยังรู้สึกคุ้มค่า ในทางธุรกิจถึงแม้ว่าเราอาจไม่ได้กำไรจากทำกล่องสุ่มหรือได้กำไรน้อยลง แต่อย่างน้อยก็ยังช่วยให้ธุรกิจของเรามี Movement มีการหมุนเวียนของสินค้าเกิดCash Flow ในขณะที่กำลังซื้อชลอตัวหรือลดลง

2. เป็นโอกาสสร้างประสบการณ์ใหม่
ในบางครั้งเราอาจมีสินค้าที่ยังไม่เป็นที่นิยมคงค้างอยู่ในคลังสินค้าเป็นจำนวนมาก โดยเรามั่นใจว่าสินค้านั้น เป็นสินค้าที่ดีน่าจะถูกใจลูกค้า การใส่สินค้าเพิ่มลงไปเพื่อให้ลูกค้าได้เปิดประสบการณ์ใหม่ทดลองใช้สินค้าถือเป็นเรื่องที่ดี และถ้าโชคดีสินค้าดังกล่าวเป็นที่ถูกใจลูกค้า อาจนำมาสู่การซื้อสินค้าชนิดนั้นซ้ำได้อีกด้วย ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเลยทีเดียว 

3. ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก
เมื่อลูกค้าที่ได้ซื้อกล่องสุ่มเกิดความชื่นชอบหรือรู้สึกคุ้มค่า อาจเกิดการแนะนำ การบอกต่อทั้งรูปแบบของการบอกกล่าวคนใกล้ตัว (Word of Mouth) หรือโพสต์บอกเล่าเรื่องราวพร้อมรูปภาพผ่าน Social Media ทำให้สินค้าหรือแบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น 

KEY TAKE AWAY  กุญแจสำคัญสำหรับกลยุทธ์กล่องสุ่ม

1. รู้ความต้องการ
เราควรรู้ว่าลูกค้ามีความคาดหวังอย่างไรจากกล่องสุ่มของเรา สินค้าในกล่องควรเป็นสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างน้อย 1 ชิ้น หากสินค้ามีหลายชิ้น มี่สำคัญระมัดระวังอย่าใส่สินค้าที่ไม่มีคุณภาพ หรือมีข้อบ่งชี้ว่าไม่ได้คุณภาพลงไปในกล่องสุ่มเด็ดขาด ความตั้งใจในการสร้างประสบการณ์ที่ดี อาจกลายเป็นการสร้างประสบการณ์แย่ๆ ให้กับแบรนด์หรือสินค้าของคุณก็เป็นได้

2. บริหารจัดการให้ดี
แน่นอนว่ากล่องสุ่มหลักๆ คือลูกค้ามักจะได้กำไร แบรนด์หรือเจ้าของธุรกิจมักจะไม่ได้กำไร หรืออาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ดังนั้นการทำกล่องสุ่มเจ้าของสินค้าหรือแบรนด์ ควรคำนึงถึงสิ่งที่จะได้รับจากการทำกล่องสุ่มให้รอบคอบ เพราะหากคำนวณไม่ดีแล้วอาจทำให้ต้นทุนเพิ่มไปพร้อมยอดขายที่เพิ่มขึ้น และยังไม่ได้อะไรกลับมาอีกด้วย

3. ลงมือให้ไว
เพราะจุดเด่นของกลยุทธ์กล่องสุ่มคือการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับลูกค้า แน่นอนว่ายิ่งผ่านไปนานประสบการณ์ที่มองว่าใหม่ก็จะเริ่มเก่า และหากถึงตอนนั้นการเลือกใช้กลยุทธ์กล่องสุ่มก็อาจจะไม่ได้ผลหรือมีประสิทธิภาพเท่ากับช่วงแรกแน่นอน