7 ก.พ. 2568
SME Trend
สมองเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดของร่างกาย ควบคุมการทำงานทุกส่วน ตั้งแต่การเคลื่อนไหว ความจำ ไปจนถึงอารมณ์ การดูแลรักษาสุขภาพสมองจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้ว่าพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันกำลังทำร้ายสมองโดยไม่รู้ตัว
1. นอนหลับไม่เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอส่งผลกระทบต่อการทำงานของสมองหลายด้าน ทั้งความจำ สมาธิ และการตัดสินใจ การนอนหลับที่เพียงพอจะช่วยให้สมองได้พักผ่อนและฟื้นฟู
2. รับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น อาหารแปรรูป อาหารที่มีไขมันสูง และอาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไป อาจทำให้เกิดการอักเสบในสมองและส่งผลเสียต่อการทำงานของสมองในระยะยาว
3. สูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ สารเคมีในบุหรี่และแอลกอฮอล์เป็นอันตรายต่อเซลล์สมองโดยตรง การสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากอาจทำให้สมองเสื่อมก่อนวัยอันควร
4. ไม่ออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงสมอง ทำให้สมองได้รับออกซิเจนและสารอาหารเพียงพอ นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเครียดและภาวะซึมเศร้า ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมองเสื่อมได้อีกด้วย
5. ไม่เข้าสังคม การพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำงานของสมอง การแยกตัวอยู่คนเดียวอาจทำให้สมองขาดการกระตุ้นและส่งผลเสียต่อสุขภาพจิต
6. ปล่อยให้ตัวเองเครียด ความเครียดเรื้อรังจะส่งผลต่อการทำงานของสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้ การจัดการความเครียดอย่างเหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
7. ไม่บริหารสมอง การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อย่างการอ่านหนังสือ หรือการเล่นเกมที่ต้องใช้ความคิด ล้วนเป็นการออกกำลังกายสมองที่ช่วยกระตุ้นการทำงานและป้องกันการเสื่อมของสมอง
• โรคสมองเสื่อม เป็นภาวะที่สมองค่อยๆ เสื่อมลง ทำให้ความจำ การคิด และการตัดสินใจบกพร่อง
• โรคหลอดเลือดสมอง เกิดจากการที่หลอดเลือดในสมองตีบหรือแตก ทำให้สมองขาดเลือดและเซลล์สมองตาย
• ภาวะซึมเศร้า เป็นภาวะที่อารมณ์เศร้าซึมอย่างต่อเนื่องและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน
• โรคพาร์กินสัน เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมของเซลล์สมองที่สร้างสารโดปามีน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว
วิธีดูแลสุขภาพสมอง
1. นอนหลับให้เพียงพอ ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
2. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป อาหารที่มีไขมันสูง และอาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไป
3. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์
4. เลิกสูบบุหรี่และลดการดื่มแอลกอฮอล์ การเลิกสูบบุหรี่และการลดการดื่มแอลกอฮอล์จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคสมอง
5. เข้าสังคมและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น การพูดคุยและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง
6. วิธีจัดการความเครียดที่เหมาะสมกับตัวเอง เช่น การทำสมาธิ การออกกำลังกาย หรือการพูดคุยกับคนที่ไว้ใจ
7. ออกกำลังกายสมอง เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อ่านหนังสือ หรือเล่นเกมที่ต้องใช้ความคิด
ที่มาข้อมูล : กรมสุขภาพจิต ชีวจิต