โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เป็นการผสมผสานการพัฒนา 3 ด้านหลัก คือ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เพื่อให้เกิดการพัฒนาประเทศในด้านสังคม เศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม
เศรษฐกิจชีวภาพ คือ เศรษฐกิจที่มุ่งใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจหมุนเวียน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับทรัพยากรชีวภาพ ตัวอย่างของเศรษฐกิจชีวภาพ เช่น อุตสาหกรรมเกษตรและอาหาร อุตสาหกรรมพลังงานชีวภาพ และอุตสาหกรรมชีวมวล
เศรษฐกิจหมุนเวียน คือ เศรษฐกิจที่มุ่งแก้ไขปัญหามลพิษ เพื่อลดผลกระทบต่อโลกอย่างยั่งยืน ตัวอย่างของเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น อุตสาหกรรมรีไซเคิล อุตสาหกรรมรียูส และอุตสาหกรรมคาร์บอนเครดิต
เศรษฐกิจสีเขียว คือ เศรษฐกิจที่มุ่งพัฒนาเศรษฐกิจโดยคำนึงถึงความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างของเศรษฐกิจสีเขียว เช่น อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมก่อสร้างที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
BCG มีคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนในหลายด้าน ดังนี้
ตัวอย่างของประโยชน์ของ BCG ในประเทศไทย เช่น
ภาครัฐและภาคเอกชนควรร่วมมือกันส่งเสริม BCG ผ่านนโยบายและมาตรการต่าง ๆ เช่น
ในปี 2024 คาดว่าจะมีผลกระทบต่อ SME ในประเทศไทย ดังนี้
เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลายลง ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัว ความต้องการสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อ SME ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกและการท่องเที่ยว
เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทสำคัญ เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในทุกภาคส่วน ส่งผลให้ SME ต้องปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและแข่งขันได้
โครงสร้างประชากรเปลี่ยนแปลง ประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น ส่งผลให้แรงงานลดลง ต้นทุนแรงงานสูงขึ้น SME ต้องปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงนี้ เช่น การใช้เทคโนโลยีเข้ามาทดแทนแรงงาน
สิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นสำคัญ สิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นสำคัญมากขึ้น ส่งผลให้ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสินค้าและบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม SME ต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
สำหรับ SME นั้น การปรับตัวของธุรกิจให้สอดคล้องกับ BCG นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจาก BCG เป็นแนวโน้มของโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและแข่งขันได้
แนวทางการปรับตัวของ SME กับ BCG มีดังนี้
* การใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า
* การใช้ทรัพยากรหมุนเวียน
* การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
* การลดมลพิษ
* การดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม
SME ควรกำหนดเป้าหมาย BCG ของธุรกิจในระยะสั้นและระยะยาว เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา โดยอาจกำหนดเป้าหมายในด้านต่าง ๆ เช่น
* การใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า
* เพิ่มการใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า
* ลดการใช้ทรัพยากรหมุนเวียน
* เพิ่มการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
* ลดมลพิษ
* ดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม
SME ควรดำเนินกิจกรรม BCG ต่าง ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยอาจพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น
* การใช้ทรัพยากรชีวภาพอย่างคุ้มค่า
* การใช้เทคโนโลยีชีวภาพ
* การนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้
* การใช้พลังงานทดแทน
* การใช้ระบบการจัดการมลพิษ
* การดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรม
SME ควรสื่อสาร BCG ของธุรกิจให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้บริโภคและนักลงทุนเข้าใจและมั่นใจในการดำเนินธุรกิจของ SME โดยอาจพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น
* จัดทำรายงาน BCG
* ติดฉลากสินค้าและบริการ BCG
* เข้าร่วมกิจกรรม BCG
การปรับตัวของธุรกิจ SME ในประเทศไทยมีความสำคัญในการตอบสนองต่อแนวโน้ม BCG ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ธนาคารไทยเครดิตมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและกลางในการปรับตัวให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและความต้องการของลูกค้า ธุรกิจที่สามารถปรับตัวได้ดีจะมีโอกาสทางธุรกิจที่แข็งแกร่งและยั่งยืนในอนาคต