จัดการค่าไฟให้อยู่หมัด: วิธีปรับตัวสำหรับธุรกิจ SME ไทยในช่วงหน้าร้อน

ปัจจุบันราคาพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ต้นทุนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SME) ต้องสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งถ้ามากไปก็จะส่งผลต่อกำไรและผลการดำเนินงานโดยรวมของธุรกิจได้ ในบทความนี้เราจะพูดถึง

กลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจ SME ลดผลกระทบจากราคาพลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เพื่อรักษาต้นทุนธุรกิจไม่ให้สูงจนเกินไป

ตรวจสอบการใช้พลังงาน

สิ่งแรกที่ผู้ประกอบการธุรกิจ SME ควรทำคือ ตรวจสอบการใช้พลังงานในธุรกิจ ซึ่งจะช่วยระบุจุดที่ใช้พลังงานจำนวนมากได้ แล้วค่อยเริ่มหาวิธีปรับปรุงแก้ไขจากจุดนั้น เช่น การตรวจสอบระบบไฟฟ้าสาธารณะ ระบบทำความร้อน ระบบทำความเย็น ระบบระบายอากาศ รวมถึงการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์
 

นำเสนอมาตรการประหยัดพลังงาน

เมื่อผู้ประกอบการธุรกิจ SME สามารถระบุพื้นที่ที่ใช้พลังงานจำนวนมากได้แล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการออกมาตรการประหยัดพลังงาน เช่น การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟที่ประหยัดพลังงาน อัปเกรดเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงาน และติดตั้งเซนเซอร์เคลื่อนไหวเพื่อควบคุมการใช้งานแสงสว่างและระบบอื่นๆ 
 

หันมาใช้พลังงานทดแทนหรือพลังงานทางเลือก

ปัจจุบัน ธุรกิจ SME สามารถพิจารณาการนำเข้าแหล่งพลังงานทดแทนได้ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ หรือเครื่องกำเนิดพลังงานจากลม ในช่วงแรกของการลงทุนติดตั้งอาจดูเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง แต่พลังงานทดแทนจะช่วยลดการใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานแบบดั้งเดิมที่มีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้

จัดแคมเปญรณรงค์และฝึกอบรมพนักงาน

ความร่วมมือจากพนักงานเป็นอีกส่วนสำคัญที่จะช่วยให้มาตรการประหยัดพลังงานมีประสิทธิภาพ ผู้ประกอบการธุรกิจ SME ควรฝึกอบรมพนักงานเรื่องการประหยัดพลังงาน หรืออาจจัดแคมเปญรณรงค์การใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่าให้เป็นวัฒนธรรมขององค์กร เช่น ปิดไฟและอุปกรณ์เมื่อไม่ใช้งาน ใช้แสงธรรมชาติแทนแสงไฟฟ้า และตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศไม่ให้ต่ำเกินไป เพื่อลดการใช้พลังงาน

#ThaiCredit #SMEกล้าให้ #standby #everyonematters #สินเชื่อSME #สินเชื่อไทยเครดิต #ธนาคารไทยเครดิต