Lazy Economy เปลี่ยนเอาความขี้เกียจ มาสร้างธุรกิจทำเงิน

18 พ.ย. 2567

SME Trend

เทคนิคในการสร้างธุรกิจให้ใหม่และแตกต่างจากสิ่งที่มีอยู่ คือต้องหยิบจับ เอาสิ่งที่คนไม่ทำขึ้นมาสร้างให้เกิดมูลค่าใหม่ เช่นเดียวกับการหยิบเอาความขี้เกียจของคน มาทำให้เกิดธุรกิจอย่างที่เรียกว่า Lazy Economy หรือเศรษฐกิจของคนขี้เกียจ ที่“ชอบใช้เงินแก้ปัญหา” มาดูกันดีกว่าว่าการสร้างธุรกิจจากโอกาสตรงนี้จะมีไอเดียอะไรได้บ้าง
 

10 อันดับเรื่องที่คนไทยขี้เกียจทำมากที่สุด

วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดลได้วิเคราะห์พฤติกรรมความขี้เกียจเพื่อนำมาต่อยอดธุรกิจหรือบริการในประเทศไทย จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,200 คน ใน 4 กลุ่มอายุ แบ่งเป็น Gen Z, Gen Y, Gen X และ Baby Boomers พบว่า 10 อันดับกิจกรรมที่ในไทยขี้เกียจมากที่สุด ได้แก่

 

  1. ออกกำลังกาย 84%
  2. รอคิวซื้อของ 81%
  3. ทำความสะอาดบ้าน 77%
  4. อ่านหนังสือ 70%
  5. ทำอาหาร 69 %
  6. พูดคุยหรือเจอคนเยอะๆ 68%
  7. ดูแลผิวพรรณตัวเอง 68%
  8. เรียน/ทำงาน 65%
  9. ออกไปช้อปปิ้ง 64%
  10. เดินทางไปไหนมาไหน 60%


5 กิจกรรมสุดขี้เกียจ แบ่งตามเพศ

เพศชาย   เพศหญิง
80 % รอคิวซื้อของ 1

ออกกำลังกาย 87%

76% ออกกำลังกาย 2

รอคิวซื้อของ 81%

75% ทำความสะอาดบ้าน / งานบ้านต่างๆ 3

ทำความสะอาดบ้าน / งานบ้านต่างๆ 78%

73% ดูแลผิวพรรณตัวเอง 4

อ่านหนังสือ 72%

71% ออกไปช้อปปิ้ง 5

ทำอาหาร 70%




โอกาสทางธุรกิจสำหรับ SME ใน Lazy Economy

  1. ธุรกิจทำแทนลดความยุ่งยากในชีวิตประจำวัน เช่น บริการจองคิว ซื้อของแทน จัดการธุระส่วนตัว เพื่อนพาไปโรงพยาบาล หรือแม้กระทั่งการจัดการเอกสารส่วนตัว ฯลฯ SME สามารถสร้างธุรกิจที่อำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ ที่ไม่ต้องการให้ลูกค้าต้องเสียเวลาและแรงในการจัดการ
  2. ธุรกิจที่ใช้หุ่นยนต์ทำงานแทนคน เช่น หุ่นยนต์ทำความสะอาด หรืออุปกรณ์สมาร์ตโฮมที่สั่งการด้วยเสียง ฯลฯ
  3. ธุรกิจเดลิเวอรี การส่งสินค้าถึงบ้าน ยังเป็นบริการที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต้องการ และเป็นโอกาสสำหรับ SME ที่มีสินค้าในมือ เช่น ร้านอาหาร, ร้านขนม, ร้านเสื้อผ้า หรือธุรกิจค้าปลีกอื่นๆ เพื่อขยายการเข้าถึงลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์และการส่งสินค้าในเวลาอันรวดเร็ว
  4. ธุรกิจทำอาหารและจัดเตรียมอาหารที่บ้าน เช่น อาหารแช่แข็งหรือชุดทำอาหารสำเร็จรูป (Meal Kits) ที่ลูกค้าสามารถทำอาหารได้ง่ายๆ เพียงแค่ตามขั้นตอน ซึ่งตอบโจทย์ทั้งความสะดวกและสุขภาพ
  5. ธุรกิจบริการทำความสะอาดและดูแลบ้าน เช่น บริการจัดบ้าน บริการเก็บของทิ้ง การดูแลสวน, ซักรีด, หรือการทำความสะอาด
  6. ธุรกิจสั่งซื้อบริการแบบอัตโนมัติ เช่น การสมัครบริการจัดส่งสินค้าในรูปแบบรายเดือน อย่าง อาหารสัตว์, ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพเครื่องสำอาง สามารถช่วยให้ SME เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้นและยังสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาว
  7. ธุรกิจแพลตฟอร์มการเรียนรู้และพัฒนาทักษะออนไลน์ เช่น คอร์สออนไลน์ที่สอนทักษะต่างๆ ที่สามารถเรียนรู้ได้จากที่บ้าน การให้บริการในรูปแบบที่ยืดหยุ่น ช่วยให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ในเวลาและสถานที่ที่สะดวก


“SLOTH” กลยุทธ์เอาใจคนขี้เกียจ

คีย์เวิร์ดสำคัญที่จะช่วยทำให้ SME สามารถสร้างธุรกิจได้ตอบโจทย์และตรงใจกับกลุ่มลูกค้า Lazy Economy มากที่สุด Speed ความรวดเร็ว ไม่ทำให้ลูกค้าเสียเวลา
Lean ลดขั้นตอนที่ยุ่งยาก ง่ายต่อการใช้งาน
Enjoy ความสนุก ทำให้เกิดประสบการณ์ที่ดีในการใช้สินค้า
Convenient สินค้าหรือบริการต้องมีความสะดวก ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น
Happy ความสุขที่ลูกค้าจะได้จากบริการที่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้ได้




Lazy Economy ไม่ได้หมายถึงแค่การขี้เกียจ แต่หมายถึงการสร้างโอกาสให้ผู้บริโภคสามารถประหยัดเวลาและแรงในการทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านการใช้บริการที่สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับ SME ที่สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างสรรค์บริการที่ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้

 


ที่มาข้อมูล :  marketingoops, digimusketeers

 

สาระ SME น่ารู้ที่เกี่ยวข้อง