“ตลาดสัตว์เลี้ยง” คือตลาดที่กำลังมาแรงและมีการเติบโตขึ้นมากจากทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป หลายคนเลี้ยงสัตว์แทนลูก หรือบางคนโสดก็เลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อน ไอเดียธุรกิจ และสินค้าหลากหลายจึงเกิดขึ้นมาเพื่อมาเอาใจบรรดาทาสที่พร้อมจะเปย์ให้กับสัตว์เลี้ยงแสนรัก เราเรียกเทรนด์การตลาดนี้ว่า “Petsumer Marketing”

 

 

Petsumer มาจาก Pet + Consumer คือ กลยุทธ์ทางการตลาดแบรนด์เลือกใช้สัตว์เลี้ยง เข้ามาเป็นอัตลักษณ์ส่วนหนึ่งของแบรนด์เพื่อช่วยในการสื่อสารภาพจำ และผลประโยชน์ทางการตลาด

ตลาดสัตว์เลี้ยงน่าสนใจอย่างไร?
จากผลวิจัย Petsumer Marketing โดยวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,046 คน ทำการเก็บข้อมูลผ่านแบบสอบถามและสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง 100 คน ในกลุ่ม Gen Y – Gen X พบว่าคนไทยนั้นเลี้ยงสัตว์ด้วย 3 รูปแบบคือ

1)  49% %เลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นลูก Pet Parent คนกลุ่มนี้จะไม่ได้มองว่าสัตว์เลี้ยงเป็นแค่สัตว์ แต่มีสถานะเทียบกับลูก เป็นคนในครอบครัวตัวเอง

2)  33% เลี้ยงสัตว์เพื่อสถานะทางสังคม Pet Prestige เช่น การเลี้ยงสิงโตที่มีราคาแพง เพื่อบ่งบอกสถานะของเจ้าของ

3) 18% เลี้ยงสัตว์เพื่อช่วยเหลือและบำบัดรักษา Pet Healing เช่น การเลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อนช่วยในการดูแลญาติผู้ใหญ่ หรือเป็นเพื่อนคลายเหงา บำบัดความเครียดช่วยให้สภาพจิตใจดีขึ้น

และประเภทของสัตว์เลี้ยงที่ทาสคนไทยนิยมเลี้ยงมากที่สุด อันดับที่ 1 คือ สุนัข 40.4% อันดับที่ 2 คือ แมว 37.1% และอันดับที่ 3 คือ สัตว์ประเภท Exotic 22.6%

ทำธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงอะไรดี?
1. Pet shop ร้านขายสินค้าเกี่ยวกับสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ของใช้สำหรับสัตว์ เครื่องประดับต่างๆ ใช้งบลงทุนเริ่มต้นประมาณ 200,000 -250,000 บาท แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับขนาดร้านของคุณ และปริมาณสินค้าที่วางขายด้วย หากมีพื้นที่และประเภทสินค้าที่หลากหลายก็อาจจะต้องใช้งบประมาณในการลงทุนสูงขึ้น

2. Pet café ร้านคาเฟ่สำหรับคน ที่ดึงเอาความน่ารักของบรรดาสัตว์เลี้ยงมาเป็นจุดขายให้คนรักสัตว์เข้ามานั่งดื่มชา กาแฟ พร้อมเล่นกับน้องหมา น้องแมวที่กลายร่างเป็นพนักงานมาเอาใจลูกค้า หรือลูกค้าจะมาคอยเอาใจบรรดาเจ้าของร้านก็ตาม

3. Pet Salon ร้านอาบน้ำ ตัดขน หรือสปาสัตว์เลี้ยง หนึ่งในธุรกิจที่อย่างไร ชาวทาสก็ต้องพาน้องๆ มาใช้บริการแน่นอน แต่ปัจจัยสำคัญของธุรกิจนี้ก็คือ ความเชี่ยวชาญในการทำความสะอาด และการตัดขน ตัดเล็บสัตว์ ที่ต้องอาศัยทักษะ และฝีมือไม่ต่างจากร้านเสริมสวยของคน ยิ่งถ้ามีบริการอาบน้ำ-ตัดขนสัตว์แบบดิลิเวอรี่ด้วยแล้วล่ะก็ ยิ่งน่าสนใจมากขึ้นไปอีก

4. Pet Hotel โรงแรมรับฝากน้องหมา น้องแมว เป็นธุรกิจที่เริ่มต้นได้เร็วและง่าย แค่มีพื้นที่สำหรับกั้นเป็นห้องพักให้สัตว์เลี้ยง มีการตกแต่ง มีของใช้ของสัตว์ อย่างที่ฝนเล็บ ห้องน้ำ บวกกับความใส่ใจดูแล และความรักสัตว์ของเจ้าของธุรกิจในการให้บริการ คุณก็สามารถมี Pet Hotel เป็นของตัวเองได้แล้ว

 

เปิดบริการที่ทาสพร้อมเปย์
บริการยอดนิยมส่วนใหญ่ที่ทาสนิยมในการดูแลสัตว์เลี้ยง ตามข้อมูลสถิติของ จากผลวิจัย Petsumer Marketing โดยวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU)

1. อาบน้ำตัดขน 60.1%

2. รับฝากเลี้ยง 25.9%

3. สปานวด 6.7%

4. ทำเล็บ 5.8%

และบริการที่คนรักสัตว์ทั้งหลายต้องการบริการเพิ่มเติม เช่น Pet Wellness Center บริการตรวจสุขภาพ รักษาโรค อาบน้ำ ตัดขน สปาสัตว์เลี้ยง จำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์ และปรึกษาแพทย์ออนไลน์ , Pet Training ศูนย์ฝึกสุนัข- แมว , After Death Service บริการจัดการศพสัตว์เลี้ยงหลังเสียชีวิต เช่น ปั้นรูปสุนัข ทำสร้อยล็อกเก็ตแทนใจ หรือตุ๊กตาสุนัขเหมือนจริง

จากข้อมูลอินไซต์ของบรรดาทาสที่ใช้ในการเปย์สัตว์เลี้ยงคงทำให้ SME มองเห็นภาพและแนวทางในการสร้างธุรกิจหรือเจาะตลาดสัตว์เลี้ยงที่ยังมีโอกาสในการสร้างธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเอาใจคนรักสัตว์ได้อีกมากมาย

 

#ThaiCredit #SMEกล้าให้ #standby #everyonematters #สินเชื่อSME #สินเชื่อไทยเครดิต #ธนาคารไทยเครดิต

ที่มาข้อมูล : digimusketeers , brandbuffet