SME กล้าเปลี่ยน POLLY ROSE "กล้าออกจากคอมฟอร์ตโซน ก้าวเดินตาม Passion"

SME กล้าเปลี่ยน พบกับคุณพอลลี่ พลิน นันทขว้าง ผู้ก่อตั้งแบรนด์เครื่องสำอาง POLLY ROSE ที่กล้าก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซนของตัวเองในการทำการตลาดแบรนด์เครื่องสำอางระดับแนวหน้า ออกมาทำแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเองตาม Passion ที่มี ท่ามกลางความท้าทายของสภาพเศรษฐกิจและตลาดความงามที่มีการแข่งขันสูง

คว่ำหวอดบนเส้นทางความงาม

พอลลี่ทำแบรนด์เครื่องสำอางมาหลากหลาย เริ่มต้นที่ SSUP ทำแบรนด์ “โอเรียนทอล พริ้นเซส” อยู่ในฝ่ายการตลาด เน้นทำการตลาดและผลิตภัณฑ์ จากนั้นก็ได้ไปร่วมงานกับแบรนด์เครื่องสำอางของนิวยอร์กชื่อ “นาร์ส”

ก้าวที่กล้าสู่การทำแบรนด์ของตัวเอง

คิดว่าถึงเวลาที่เราต้องก้าวออกจากคอมฟอร์ตโซน จึงเป็นที่มาที่เราออกมาทำแบรนด์ของตัวเอง อยากให้มีชื่อตัวเองในตลาด “โรส” เป็นดอกไม้ที่เราชอบ และเป็นราชินีแห่งความงาม POLLY ROSE จึงเป็นตัวแทนแห่งความงามจากพอลลี่ที่อยากมอบให้แก่คุณ

 

เข้าใจตลาด กล้าสู้ ชูจุดแข็ง

ด้วยแนวคิดของแบรนด์ตั้งแต่เริ่ม เราตั้งใจสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ แต่ราคาไม่สูง โดยตัดสินใจเปิดตัวแบรนด์ POLLY ROSE ด้วยแป้งพัฟฟ์ เพราะแป้งเป็นตลาดที่ใหญ่มากในเมืองไทย เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องใช้ และเมื่อมาเปิดตัวในช่วงโควิด-19 เรารู้อยู่แล้วว่าเครื่องสำอางที่มีสีสันอื่นๆ ยอดตกหมดเพราะคนไม่ใช้ แต่แป้งยังมีคนใช้ และในตลาดก็ยังมีช่องว่างอยู่

ปัจจุบันแป้งผสมรองพื้นแบบไม่มีซิลิโคนในตลาดมีอยู่น้อยมาก และมีราคาสูง ซึ่งข้อดีของการไม่มีซิลิโคนคือ ไม่ทำให้เกิดการอุดตันจากซิลิโคน จึงพยายามพัฒนามาเรื่อยๆ ในที่สุดก็ได้ลองทำกับนักวิจัย จนสามารถพัฒนาแป้งผสมรองพื้นสูตรไม่มีซิลิโคนได้สำเร็จ ตอบโจทย์ทั้งคุณสมบัติหลัก และได้ Value Added คือไม่มีซิลิโคน และสุดท้ายที่ขาดไม่ได้คือ ดอกกุหลาบ (ตามชื่อแบรนด์) ดอกกุหลาบเป็นตัวแทนของความงาม เลยเลือกที่จะมีส่วนผสมของดอกกุหลาบด้วย ซึ่งมาจากโพรวองซ์ เรียกได้ว่าส่วนผสมเกินราคา และคุ้มค่า

ไม่หยุดก้าว...แม้มีอุปสรรค

การเปิดตัวแบรนด์ในสถานการณ์โควิด-19 เราต้องวางแผนให้รัดกุม แผนโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่เราวางไว้คือ การใช้อินฟลูเอนเซอร์เป็นหลัก และใช้กลยุทธ์ Word Of Mouth (การบอกต่อ) อินฟลูเอนเซอร์ที่เราเลือกจะต้องเป็นสาวที่ทันสมัย มีการใช้ดาราด้วย แต่จะเป็นเหมือนการประชาสัมพันธ์มากกว่า

สถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นอุปสรรคใหญ่ในการทำธุรกิจ จริงๆ แล้วเราพัฒนาสินค้าไว้ก่อนหน้านั้น กำหนดการวางขายไว้แล้ว ก็ต้องเลื่อนไป กลับมาคิดใหม่ว่าเราควรชะลอไปก่อนไหม ให้มันผ่านพ้นช่วงนี้ไป แต่ด้วยแนวคิดหลักของแบรนด์ที่พัฒนาผลิตภัณฑ์นี้มาด้วยคุณภาพ ทั้งตัวแป้งและบรรจุภัณฑ์ บวกกับราคาที่จับต้องได้ คิดว่าตลาดในประเทศน่าจะตอบรับดีอยู่ เพราะฉะนั้นก็ลุยเลยค่ะ

ให้ Passion นำทาง

แรงบันดาลใจที่ทำให้กล้าก้าวออกมาทำแบรนด์ของตัวเองคือ Passion เราอยากทำตาม Passion ที่เรามีอยู่ อยากทำแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง ซึ่งเวลาทำงานแล้วมี Passion เราจะทำออกมาได้ดี และมีความสุข นี่คือจุดที่ทำให้เรากล้าเปลี่ยน