ใครจะคิดว่า "เสื้อโรงเรียน" จะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของธุรกิจร้อยล้าน? ของ คุณธนพล อรุณศิริ ประธานกรรมการ บริษัท สมศรีการ์เมนท์ จำกัด ที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความกล้าที่จะออกจากเซฟโซนตั้งแต่วัย 17 ปี คือแรงขับเคลื่อนสำคัญที่สร้างแบรนด์ "สมศรีมีเสื้อ" ให้แข็งแกร่งในตลาดการ์เม้นท์ และตั้งเป้าหมายที่จะเติบโตไปให้ถึง  100 ล้านบาท อะไรคือความลับที่ทำให้เด็กหนุ่มคนนี้กล้าฝัน? และเขามีวิธีการจัดการธุรกิจอย่างไรให้เติบโตอย่างยั่งยืน มาร่วมหาคำตอบไปพร้อมกัน

 

เด็กอายุ 17 เจ้าของธุรกิจการ์เมนท์

ผมเริ่มธุรกิจนี้ตั้งแต่อายุ 17 ตอนนั้นไม่ได้มีเงินทุนเลย เรามองว่าเสื้อมีความต้องการอยู่ในทุกๆ กลุ่มตั้งแต่กลุ่มนักเรียน โรงเรียน ด้วยความที่เราเป็นนักเรียนอยู่ในตอนนั้น เรามีโอกาสได้อยู่ในชมรมต่างๆ แล้วเรามองเห็นว่ามีโอกาส เลยลองมาเป็นคนที่รับผลิตเสื้อดูบ้าง จากการไปติดต่อโรงงาน ขอกินคอมมิชชันหรือกินส่วนต่างราคา เราก็เลยลองคิดลายเสื้อมาแล้วก็สกรีน แล้วก็ขายเขา  คือทำเป็นเสื้อโรงเรียน เหมือนกับเสื้อเฟรชชี่ของมหาลัยเลย ตอนนั้นเราขายดีมาก เราขายได้เดือนละเกือบประมาณ 2 แสนบาท  ทำแบบนี้มาเรื่อยๆ จนเรามองว่าธุรกิจมันสามารถเติบโตได้ เราก็เลยเริ่มเปิดโรงงานของเราเอง ก็เริ่มหาคำสั่งซื้อในช่องทางออนไลน์ ในเว็บที่เราทำขึ้นมาในชื่อว่า สมศรีมีเสื้อ แล้วเราก็ยิงกูเกิลแอด ยิงเฟซบุ๊กแอดอย่างนี้  จนเราได้ลูกค้ามาเรื่อยๆ แล้วก็มีฐานลูกค้าเข้ามาครับ

 

เกือบล้มตั้งแต่เริ่มต้น

เราเข้ามาด้วยความเป็นเด็ก เราไม่รู้เลยว่าธุรกิจนี้ จะใช้คนเยอะขนาดนี้  และก็ต้องมีทักษะในการจัดการคน แต่เราเด็กมาก เราไม่รู้เรื่องอะไรเลย เรารับเข้ามาเหมือนเป็นเพื่อนเรา เป็นผู้ใหญ่ เป็นคนนั้น คนนี้ เราก็ติดเกรงใจเขา เราก็เจอปัญหาหลายเรื่องมากๆ และก็เชื่อว่าเงินจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ เราก็เลยใช้วิธีการถมคน  ปัญหานี้เหรอทําอย่างไรดี สกรีนไม่สวย หาคนมาคุมมันแล้วกัน งานไม่สวย งานไม่ดี เพิ่มตรวจสอบแล้วกัน  จัดซื้อ ซื้อช้า เพิ่มจัดซื้อละกัน เราใช้วิธีแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนต้นทุนเราบานมาก ธุรกิจก็ขาดทุนเรื่อยมา แต่พอเงินเริ่มหมด ความเครียดเริ่มกลับมาเหมือนวันแรกที่เราตั้งธุรกิจ พอเราเริ่มมองจริงๆ  มันไม่ได้จําเป็น คนตําแหน่งนี้จริงๆ ไม่ได้จําเป็น วิธีการบริหารแบบนี้ไม่ถูกต้อง เราก็เปลี่ยนใหม่ ทําใหม่เหมือนเราเปิดโรงงานใหม่วันแรก ธุรกิจก็เริ่มย้อนกลับมา ทําให้ธุรกิจสามารถทำกําไรต่อไปได้

 

 

สมศรีเต็มใจบริการ 

ที่ลูกค้าไว้วางใจสมศรี แล้วก็กลับมาสั่งสมศรีใหม่ทุกครั้ง ผมเชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่ผมยึดถือมาตลอดเลย คือคําว่า ความรับผิดชอบ ผมเคยทำงานมีปัญหา เสียหาย ลูกค้าได้ของช้า เพราะผมต้องผลิตให้ลูกค้าใหม่หมด ผมก็ถามลูกค้าว่า ผมพลาดมา ผมก็เสียใจที่ผมพลาด ทำไมปีนี้ยังกลับมาสั่งผม เขาบอก เพราะว่าสมศรีรับผิดชอบ สมศรีเต็มใจแก้ไขทุกอย่าง ถึงแม้สมศรีจะขาดทุน  รวมถึงเรื่องที่เราเฟ้นหาและไม่หยุดในเรื่องอุตสาหกรรมเสื้อจริงๆ ถ้าลูกค้าบอกอยากได้แบบนี้เราจะไปหามา บางทีเราบินไปจีน บินไปที่ไหนก็แล้วแต่ เพื่อให้เจอสิ่งที่ลูกค้าต้องการ แล้วก็อีกเรื่องหนึ่ง คือ การดูแลลูกค้า หลายๆ ครั้งลูกค้าจะมาแจ้งกับเราว่า เขาไปที่อื่นมาบางทีกว่าจะเคลียร์กับเขาเสร็จ กว่าจะแก้ปัญหาให้เขา กว่าจะให้เขาสั่งเสื้อได้นานมากเลย พอมากับเรามันเร็วขึ้น ทีมขายทุกคนเต็มที่ จะแก้ไขปัญหาให้ลูกค้า ลูกค้ามีความสุขที่จะสั่งกับเรา แล้วก็สั่งซื้อกับเราเรื่อยๆ

 

สูตรลับการเติบโต

ตอนนี้เราก็มีลูกค้าให้ความไว้วางใจเยอะมากๆ ผมคิดว่ารวมๆ แล้ว ลูกค้าน่าจะหลักหมื่นราย เราทําคำสั่งซื้อให้ลูกค้าปีหนึ่ง เกือบ 1,000 โครงการ ผมคิดว่ารวมรวมแล้ว ตั้งแต่เราเปิดมาจนถึงวันนี้ เราส่งเสื้อไปให้ลูกค้าแล้วมากกว่า 1 ล้านตัว การเติบโตของเรา จริงๆ มันเริ่มมาจากการที่เราทํางาน  ผมเชื่อว่ามันไม่ได้มีสูตรลับอะไรเลย นอกจากการลงมือทํา  แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่เราเริ่มลงมือทํา เราจะเริ่มเห็นปัญหาและแก้ไขปัญหางานได้  ตัวธุรกิจมันก็เติบโตมาเอง จนทุกวันนี้เราขายกันเดือนละประมาณ เฉลี่ย 5 ล้านบาท ซึ่งปีนี้เราปิดอยู่เกือบๆ 60 ล้านบาท แล้วปีหน้าเราก็ตั้งใจว่าเราจะโตไปประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้แผนที่เราตั้งไว้ปีหน้าเราบรรลุผล 100 ล้านบาทแน่นอน

 

จากผู้ผลิต สู่เจ้าของแบรนด์

โรงงานผลิตเสื้อถ้าทําแต่เสื้อให้กับคนเอาไปขาย โรงงานก็จะไม่รวยมาก แต่คนที่รวยจะเป็นเจ้าของแบรนด์ วันนี้จุดเปลี่ยนของเรา คือเราเริ่มไปลงทุนกับการทําแบรนด์มากขึ้น เราเริ่มสร้างแบรนด์ขึ้นมา แล้วเราก็เอาแบรนด์นั้นมาขาย ซึ่งเราจะเห็นว่าตัวกำไรของการทําแบรนด์สูงกว่ามาก แล้วการลงมือทําตอนนี้ แบรนด์ของเราเริ่มกินสัดส่วนยอดขายขึ้นมาเยอะขึ้น แต่กําไรสูงกว่าชัดเจน อันนี้น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนสําคัญ ที่เป็นแผนในปีหน้าถัดไปด้วย ที่เราเชื่อว่าการเอาแบรนด์มาทําในธุรกิจของโรงงาน เริ่มมีแบรนด์ เริ่มมีสินค้าที่เป็นตัวกําหนดลูกค้ามากขึ้น มากกว่าการที่เรารอออเดอร์เข้ามา จะเป็นตัวที่ทําให้ธุรกิจเรามียอดขายที่ดีขึ้น

ทำธุรกิจด้วย ความเชื่อ

เป็นคําของ เฮนรี ฟอร์ด เขาพูดว่า ไม่ว่าคุณจะคิดว่า  คุณทําได้หรือคุณทําไม่ได้  คุณก็คิดถูกเสมอ ผมเชื่อเรื่องนี้มาก ถ้าเราคิดว่าเราบินได้ เราจะหาวิธีจนเราบินได้เอง ถ้าเราเชื่อว่าเราบินไม่ได้ เราก็บินไม่ได้ ถ้าเราเชื่อว่าเราทําธุรกิจนี้มันจะต้องสําเร็จ มันจะสําเร็จ มันจะมีทางอะไรให้ไปได้ จนมันประสบผลสำเร็จแน่นอน แต่ถ้าคุณคิดว่าไม่มีทาง ธุรกิจนี้มันไม่มีทางรอดหรอก มันก็จะเละแบบนั้น สุดท้ายแล้วผมเชื่อว่าการกระทําอะไรของเราทั้งหมด และผลลัพธ์จากการกระทําสิ่งนั้น มันมาจากความเชื่อ ถ้าเราเชื่อและเราเต็มที่กับมัน เราไม่ยอมแพ้มัน ผมคิดว่าเราเชื่ออะไรก็ตาม มันสําเร็จหมดครับ

 

Thai Credit Standby 

การที่ธุรกิจหลายธุรกิจโตได้ โตมาจากสินเชื่อ เพราะว่าภาพที่เขาเห็น ใหญ่กว่าเงินที่เขามีในกระเป๋า เขาเห็นว่าสิ่งนี้กําลังจะสำเร็จ สิ่งนี้กําลังจะเป็นไปได้ การที่มีสินเชื่อเข้ามาช่วย มันทําให้ความฝันของเขาเป็นจริงเร็วขึ้น การกู้แบงก์ไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าคุณทําทุกอย่างให้มันถูกต้องตั้งแต่วันแรก เราไม่อยากให้กลัวเจ้าหน้าที่ธนาคาร เพราะเจ้าหน้าที่ธนาคารจริงๆ พร้อมช่วยเหลือเต็มที่อยู่แล้วให้เราได้แบบสินเชื่อมาเพื่อดําเนินกิจการ ในการลุยธุรกิจให้เติบโตต่อไป พูดถึงงานบริการของธนาคารไทยเครดิตที่ผมประทับใจมากคือ ความรวดเร็ว   ผมเพิ่งรับสายเขาวันนี้ วันถัดไปเขามารับเอกสารผมเรียบร้อย มาถึงที่เลย แล้ววันถัดไปอีกทีหนึ่ง ผมก็จะทราบผลแล้ว  ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ประทับใจมาก แล้วก็ทําให้เราสามารถวางแผน แล้วก็ตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ใหญ่ๆ ได้อย่างทันท่วงที  สุดท้ายก็อยากขอบคุณธนาคารไทยเครดิต ที่เข้ามามอบโอกาสดีๆ แล้วก็สนับสนุนผู้ประกอบการอยู่อย่างต่อเนื่องนะครับ