14 ส.ค. 2568
SME Inspiration
ช่วงวิกฤตโควิด-19 เศรษฐกิจของประเทศถูกปิด ความฝันของใครหลายคนชะลอลง แต่ คุณณัฐวัชร์ บุญชัยเสรี กลับเลือกที่จะเปิด บริษัท ฮาร์โมนิกซ์ โซลูชั่น จำกัด หรือ HarmonyX ธุรกิจให้บริการเป็นที่ปรึกษา ให้คําแนะนํากับลูกค้า ในเรื่องของการบริหารจัดการข้อมูลด้วยเทคโนโลยี เพราะเชื่อมั่นว่า ไม่ว่าจะเกิดสถานการณ์ใด แต่เทคโนโลยีมีส่วนสำคัญที่เราสามารถใช้งาน และสร้างให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ แนวคิดนี้เองจึงเป็นแรงผลักดันให้บริษัทสตาร์ตอัปเทคโนโลยีนี้ กล้าคิด กล้าฝัน และเติบโตอย่างรวดเร็วแม้จะต้องเจอกับวิกฤตในประเทศ
จุดเริ่มต้นจริงๆ คืออยากให้ HarmonyX เป็นบริษัทที่คนกับเทคโนโลยี สามารถสอดคล้องประสานกันได้อย่างลงตัวและเติบโตไปด้วยกัน เราค้นพบว่าสิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงได้ในยุคนี้ ทําให้คนธรรมดาติดอาวุธ ติดจรวดได้ คือ ต้องมีเทคโนโลยี เพราะฉะนั้น การที่คนจะสามารถทํางานควบคู่กับเทคโนโลยีหรือเครื่องมือต่างๆ ให้ดีขึ้น จะทําอย่างไรให้มันง่าย เราเลยมาเป็นส่วนหนึ่งในการทําให้การใช้เทคโนโลยี ทํางานกับคน ได้ง่ายขึ้นแล้วเข้าถึงกับทุกๆ คน เพื่อเป็นแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการ แล้วก็ผู้ทําธุรกิจต่างๆ ได้เติบโต และใช้เทคโนโลยีได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
จริงๆ ต้องบอกว่าเรื่องราวมันดูตลกนิดนึง HarmonyX ก่อตั้งประมาณปี 2019 ทุกคนจะรู้จักดีว่า ปี 2019 เข้าสู่ช่วง โควิด-19 วันที่เปิดบริษัทคือวันที่ 31 มกราคม 2020 เปิดปุ๊บ บริษัทก็คือ ติดโควิด-19 ปิดประเทศทันที จริงๆ ถามว่าทำไมเราถึง กล้าที่จะลงทุน ลงแรงทำบริษัท HarmonyX ในจังหวะที่ประเทศปิด คือ เรารู้ว่าเทคโนโลยีอย่างไร ไม่ว่ามันจะเกิดสถานการณ์ไหน เทคโนโลยีจะเป็นส่วนสําคัญ ที่จะทําให้บริษัทสามารถเติบโตได้ และมาตอบโจทย์ช่วงเวลาที่ยากลำบาก เทคโนโลยีจะพาให้คนเข้าถึงกัน ให้สามารถที่จะหยุดและใช้ประโยชน์จากมันได้สูงสุด
ที่ HarmonyX เราจะดูแลตั้งแต่การให้บริการเป็นที่ปรึกษา ให้คําแนะนํากับลูกค้า ในเรื่องของการบริหารจัดการข้อมูลเรื่อง Data เรื่องของการบริหารจัดการ Cloud Computing หรือเรื่องของการทําอย่างไร เพื่อจะโยกย้ายระบบจาก Cloud ลงมาอยู่ที่ระบบที่เป็นคอมพิวเตอร์ แล้วก็ให้คําแนะนําในเรื่องของการบริหารจัดการข้อมูล การออกแบบธรรมาภิบาลข้อมูล การบริหารจัดการข้อมูลให้ปลอดภัย ในยุคที่เราพร้อมจะโดนเรียกค่าไถ่หรือ Ransomware ตลอดเวลา และการเอา Data หรือข้อมูลไปต่อยอดเป็น AI ในอนาคต 3 อย่างนี้ คือ 3 อย่างหลักที่ HarmonyX มุ่งเน้น เรื่องข้อมูล เรื่อง AI และเรื่องความปลอดภัยครับผม
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาจริงๆ ทุกท่าน คงทราบกันดีถึงเรื่องของการมาของ AI ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เขาจะเรียกว่าเทคโนโลยี Emerging คือ เปลี่ยนแปลงแบบอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น ธุรกิจก็จะมีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบจากการที่ AI เข้ามาทำงาน แต่สิ่งที่สำคัญที่ HarmonyX พยายามขับเคลื่อนให้เป็น คือ แล้วทำอย่างไรให้มนุษย์อยู่ร่วมกับ AI แล้วสามารถใช้เป็นเครื่องมืออันชาญฉลาด เพื่อลดเวลาและส่งมอบคุณค่า เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และลงตัวในยุคที่ AI ก็สามารถทำงานเกือบๆ เท่ามนุษย์ได้ในบางส่วนแล้วครับ
ก่อนจะทําอะไรสักอย่างหนึ่ง ผมว่าจุดเริ่มต้นค่อนข้างสําคัญ โดยทั่วไปเราจะใส่ในเรื่องของเทคโนโลยีทันที เราเรียนรู้ที่จะรู้ว่าลูกค้ากําลังประสบปัญหาหรือเผชิญหน้ากับอะไร หลังจากนั้นพอเราเข้าใจจริงๆ ว่าเขาต้องการอะไร มันไม่ยากเลยที่จะเอาเทคโนโลยีมาประกบ เพราะว่าในบุคลากรของ HarmonyX เรามีความรู้อยู่แล้วว่าอะไรต้องใช้ในงานไหน เราจะไม่ได้เลือกเทคโนโลยีที่ฟุ้งเฟ้อ มีค่าใช้จ่ายสูง ซื้อมา 100 ใช้แค่ไม่เกิน 10 แต่เราจะเลือกเทคโนโลยีที่เอาไปปรับปรุง เอาไปประกบข้างๆ แล้วแก้ปัญหาตามขนาดธุรกิจหรือการเติบโตของลูกค้า
ต้องบอกว่าที่ HarmonyX ทั้งตัวผมเองและทีมงาน เราเรียนรู้ที่จะยอมรับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ยิ่งเราอยู่กับอุตสาหกรรม ที่เป็นทางด้านเทคโนโลยีหรือไอที มันไม่มีวันไหนที่ไม่เปลี่ยนเลย การเปลี่ยนแปลงมันทําให้เราต้องกลับไปเรียนรู้ กลับไปค้นคว้า เพราะว่าถ้าเราตามการเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ในเรื่องของการออกแบบเม็ดเงินลงทุน ในเรื่องออกแบบทีมทํางานทรัพยากรบุคคล มันมีความท้าทายอยู่ที่ตรงนั้น ในเรื่องของการทําอย่างไรให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันกับสิ่งที่มันเปลี่ยนแปลงในโลกภายนอก
จริงๆ ต้องบอกว่า HarmonyX มองว่าธนาคารไทยเครดิต เป็นธนาคารที่ให้โอกาสตรงนี้ ในเวลาที่ HarmonyX ต้องการพัฒนาค้นคว้าและวิจัยตัวผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ ต้องบอกว่าธนาคารไทยเครดิตเป็นธนาคารแรก ที่มีความรวดเร็วในการให้บริการ และตอบสนองความต้องการในการหาตัว Funding หรือเม็ดเงินลงทุนกับทาง HarmonyX ได้เป็นอย่างดี ขอขอบคุณธนาคารไทยเครดิต ที่ให้โอกาสเป็นส่วนเติมเต็ม ในการให้วงเงินสินเชื่อกับทางธุรกิจ เพื่อให้บริษัทมีโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอด ให้บริษัทเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืนครับ