18 มี.ค. 2567
SME Inspiration
หลายคนเข้าใจว่า กาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าส่วนใหญ่นั้น จะพบได้ที่ทางภาคเหนืออย่างจังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย หรือ เพชรบูรณ์ ส่วนสายพันธุ์โรบัสต้าจะพบทางภาคใต้ใน จังหวัดชุมพร แต่คงไม่มีใครเชื่อว่าในภาคอีสาน อย่างในจังหวัดชัยภูมิ จะสามารถปลูกกาแฟทั้งสองสายพันธุ์ได้ แถมยัง และสามารถส่งออกขายไปในต่างประเทศ ภายใต้แบรนด์ “ไวท์สโตน คอฟฟี่” โดยคุณอาลักษณ์ พุกกะณะสุต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไวท์ สโตน คอฟฟี่ จำกัด
เริ่มต้นที่มาคือว่า หุ้นส่วนของผมชอบเดินป่า แล้วเขาไปเจอหมู่บ้านหนึ่ง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่สูงที่สุดของจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งชาวบ้านที่นั่นปลูกยาง รวมถึงมีผลผลิตเกษตรต่างๆ รวมทั้งกาแฟอยู่ด้วย แต่ปัญหา คือ มีคนเคยส่งมาให้ปลูกแต่ว่าไม่มีผู้รับซื้อ ผมก็เลยคุยกับทางหุ้นส่วนว่า เราจะลองซื้อผลผลิตของชาวบ้าน เอากลับมาลองแปรรูป ส่งคั่วและลองทำตลาดดูดีไหม เราก็เริ่มขยายจากส่งตัวอย่างให้แต่ละร้าน และได้ผลตอบรับกลับมา หลังจากนั้นจึงได้กระจายให้กับหลายๆ ร้าน และส่งขายภายใต้แบรนด์ “ไวท์สโตน คอฟฟี่”
ที่มาขอไวท์สโตนมาจากที่ว่า เราพยายามคิดชื่อแบรนด์ให้สะท้อนกับท้องถิ่น เพราะผลผลิตของเรา คือ กาแฟจากชัยภูมิ เราเลยนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญในจังหวัดอย่าง "มอหินขาว" ก็เลยมองว่าชื่อภาษาอังกฤษเป็นอย่างไรดี มันเลยมาคล้องจองกับคำว่า ไวท์สโตน ที่แปลว่า หินขาว และก็เลยน่าสนใจ เราเลยใช้ชื่อนั้นมาตั้งเป็นชื่อแบรนด์ว่า "ไวท์สโตน คอฟฟี่" กาแฟไทยในภาคอีสานที่ใครๆ อาจจะไม่เชื่อว่าสามารถปลูกกาแฟได้
กาแฟที่ในช่วงแรกก็จะเป็นกาแฟ สายพันธุ์โรบัสต้า ซึ่งเป็นสายพันธุ์กาแฟที่ มีความทนทานได้ดี แต่ว่าคุณภาพกลิ่น รสชาติยังไม่หอมมาก ถ้าเทียบกับอีกสายพันธุ์หนึ่ง ที่ชื่อว่า "อาราบิก้า" ที่ขายได้ราคาดีกว่า หอมกว่า เป็นที่นิยมมากกว่า เราก็เลยเริ่มซื้อเมล็ดพันธุ์มาเพาะกล้า และประมาณ 6 เดือน ก็ส่งให้กับเกษตรกรที่หนองบัวระเหวทดลองปลูกต่อยอดกับกาแฟสายพันธุ์เดิม
กาแฟของไวท์สโตน จะมีลักษณะพิเศษคือ มีรสสัมผัสที่เข้นข้น เนื่องจากพื้นที่ของดิน ที่มีแร่ธาตุ เป็นแร่ภูเขาไฟ ทำให้กาแฟมีรสสัมผัสที่ดี และมีกลิ่นหอมที่มีความเป็นเอกลักษณ์ชัดเจนแตกต่างจากที่อื่น ส่วนกาแฟโรบัสต้าจุดเด่นของที่นี่ คือ จะมีรสสัมผัสที่ดีด้วย และยังมีลักษณะพิเศษคือ ความสว่างของรสชาติ จะไม่ทึบ ซึ่งผลผลิตที่ได้ก็จะขึ้นอยู่กับ ดิน น้ำ ลม ต่างๆ ฉะนั้นต้องบอกว่ากาแฟแต่ละที่ ก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน
จุดเด่นของกาแฟในประเทศไทย คือ เราเป็นอุตสาหกรรมกาแฟที่มีตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ต้นน้ำของเราเป็นผู้ผลิตกาแฟที่ดี เราเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ บวกกับมีกลางน้ำที่ดี อย่างมีโรงคั่วกาแฟที่หลากหลาย ตั้งแต่ไซซ์เล็ก ไซซ์กลาง ไซซ์ใหญ่ รวมถึงร้านกาแฟ ก็คือเป็นปลายน้ำ ที่ส่งต่อกาแฟดีๆ ให้กับผู้บริโภคปลายทาง หลายๆ ประเทศต้องบอกว่าเป็นประเทศผู้นำเข้ากาแฟ แต่ไม่สามารถปลูกกาแฟได้ มีแค่ประเทศไทยประเทศเดียวที่ทำได้ทุกอย่าง ครบในที่เดียวกันเลย ตั้งแต่ปลูก แปรรูป จนถึงมีร้านกาแฟจำหน่าย ซึ่งต้องบอกว่าประเทศที่ปลูกกาแฟได้ มีแค่ประมาณไม่ถึง 40 ประเทศ จากประเทศที่กินกาแฟร้อยกว่าประเทศทั่วโลก และปีที่แล้วเป็นปีแรกที่เมล็ดกาแฟไทย อยู่ในหนึ่งของผู้ประกวดเมล็ดกาแฟที่ได้รับความนิยมระดับโลก ซึ่งเรียกว่าหน่วยงาน Cup of Excellence ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จะเข้าไปในแต่ละประเทศ และก็คัดสรร หาเมล็ดกาแฟ 10 อันดับ ของประเทศนั้นๆ เพื่อที่จะนำเมล็ดกาแฟพวกนี้ ส่งให้กับผู้ประมูลทั่วโลก ทำให้กระแสของเมล็ดกาแฟไทย ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น
หลังจากที่เริ่มมีการขายเมล็ดกาแฟต่างๆ จากเมล็ดกาแฟไทยของชัยภูมิ เราก็เริ่มไปติดต่อกับเกษตรกรหลายๆ ที่ทางภาคเหนือด้วย ในการจำหน่ายเป็นการคั่วแล้วส่งตามร้านกาแฟ เราก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ว่าหลายๆ ร้าน เริ่มสนใจจะหันมาคั่วกาแฟด้วยตัวเอง เพราะแต่ละร้านต้องการที่จะควบคุมคุณภาพ รสชาติและก็ต้นทุนของร้านเขาเอง เราก็หันมาจัดส่งในส่วนเมล็ดกาแฟดิบ ที่ยังไม่ได้คั่วเพิ่มมากขึ้น แล้วพอเราเริ่มจำหน่ายเมล็ดกาแฟดิบ เราก็เห็นว่าเมล็ดกาแฟในต่างประเทศมีตั้งหลายสิบแหล่งเยอะมากเลย แต่ทำไมในไทยยังไม่ค่อยมีคนนำเข้า พอดีผมได้มีโอกาสไปงานต่างประเทศ
เราก็เลยมองว่าน่าจะเป็นโอกาสที่เราจะนำเข้ามา เพื่อที่จะมาแชร์และจำหน่ายให้กับโรงคั่ว ร้านกาแฟ ได้ลองชิมกัน พอเรานำเข้ามาเรื่อยๆ เราได้เรียนรู้แต่ละตัว แต่ละแหล่งมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ทั้งหมดนี้ส่วนใหญ่ที่เรานำเข้ามา ต้องบอกว่าเกือบๆ 30 แหล่งปลูก และกาแฟที่เรามีอยู่ก็เกินกว่า 200 ประเภท กลุ่มลูกค้าที่ซื้อเมล็ดกาแฟดิบของเราก็จะเป็นโรงคั่ว มีตั้งแต่โรงคั่วขนาดใหญ่ ในรูปแบบของบริษัท ที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่เลยที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ และก็เป็นบริษัทขนาดกลาง จนถึงขนาดเล็กส่วนนี้จะเป็นกลุ่มของลูกค้าเราประมาณเกินกว่า 2,000 ราย อันนี้เป็นกลุ่มลูกค้าในประเทศ ส่วนกลุ่มลูกค้าต่างประเทศก็จะมีอย่าง เช่น มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา สำหรับปีนี้เราจะมีที่อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ด้วยนะครับ ซึ่งเราเห็นศักยภาพในหลายๆ ประเทศ แม้กระทั่งโซนตะวันออกกลาง ก็มีความสนใจในเมล็ดกาแฟดิบของไทยมากๆ ทำให้เราเติบโตขึ้นมาเป็นหลักเท่าตัว ถ้าเทียบกับปี 2566 ที่เราขายไปรวมๆ แล้ว เราขายเมล็ดกาแฟไปอยู่ราวๆ กว่า 1,000 ตันครับ
ในปีนี้เราต้องการที่จะลงลึกกับลูกค้ามากขึ้น เราต้องการทำเรื่องการเก็บข้อมูล และช่วยทำตลาดควบคู่ไปกับลูกค้า เช่น ทำกิจกรรมสนับสนุนนักแข่งกาแฟ ในเรื่องของการเป็นผู้สนับสนุน อันนี้ คือ เป้าหมายในประเทศเรา ในส่วนของตลาดต่างประเทศ เรามั่นใจในศักยภาพของเมล็ดกาแฟไทย เราออกบูทต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เราไปประชาสัมพันธ์เมล็ดกาแฟไทยเพิ่มมากขึ้น ทำให้หลายๆ ประเทศเริ่มสนใจ หันมามองเมล็ดกาแฟไทย ถือว่าเป็นหนึ่งในเมล็ดกาแฟคุณภาพดี ไม่แพ้ชาติใดในโลก แล้วปีนี้เรามั่นใจว่าเราจะส่งออกไปในประเทศต่างๆ ได้มากขึ้นอีกหลายประเทศ
สำหรับคนที่สนใจที่จะเข้ามาในธุรกิจกาแฟ ผมว่าสิ่งแรกสำคัญที่สุด เราต้องหาตัวเองให้เจอก่อนว่าเราชอบ หรือเราถนัดสิ่งไหนก่อน หลังจากนั้นเราต้องเข้ามาศึกษา และพยายามหาพื้นที่ของตัวเองให้เจอ ถ้าเราถนัดต้นน้ำเรามีความสัมพันธ์ เราเป็นผู้นำเข้าเราสามารถคัดเลือกกาแฟดีๆ ได้ อันนี้เราก็อยู่ในฐานะของผู้นำเข้าได้ แต่ถ้าเราถนัดในเรื่องที่เราชอบคั่วกาแฟ ชอบแปรรูปกาแฟ ก็จะอยู่ในเรื่องของการไปทำโรงคั่วกาแฟ หรือใครที่ถนัดในการทำร้าน ทำคาเฟ่ อยากจะชงเป็นแก้ว เป็นบาริสต้า เราก็ต้องหาจุดให้เจอว่าร้านกาแฟของเรา เราจะขายอะไร เราจะมีตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์อย่างไรให้กับแบรนด์ของเรา ร้านกาแฟของเรามีความแตกต่างจากที่อื่น
ผมมองว่าเงินทุนจะมีส่วนสำคัญมากๆ ที่ทำให้เราสามารถนำเข้าเมล็ดกาแฟมาสต็อกสินค้าเพื่อที่จะให้เรามีสินค้าส่งต่อให้กับลูกค้าได้ตลอดทั้งปี ธนาคารไทยเครดิตเข้ามาสนับสนุนในเรื่องของสินเชื่อ ในรูปแบบของเงินลงทุนให้กับธุรกิจเรา ช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตมากขึ้น ถือเป็นเชื้อเพลิงให้กับธุรกิจ ทั้งนี้ไม่ใช่เฉพาะแค่เรื่องของเงินทุนอย่างเดียว ธนาคารไทยเครดิตเองมีพนักงานที่เข้ามาดูแล ให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการ ทั้งในแง่ของการทำธุรกิจ การบริหารจัดการในเรื่องของเงินทุนต่างๆ รวมถึงยังสนับสนุนเรื่องความรู้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก สำหรับผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจอยู่ตอนนี้ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างมาก ต้องขอขอบคุณธนาคารไทยเครดิต พนักงาน ทีมงานทุกคนจริงๆ ครับ
#ThaiCredit #SMEกล้าให้ #standby #everyonematters #สินเชื่อSME #สินเชื่อไทยเครดิต #ธนาคารไทยเครดิต