SME กล้าเปลี่ยน ข้าวหน้าเนื้อคุ้มสึ ที่ขายได้ 3 ล้านชาม โดยไม่มีหน้าร้าน

29 ก.ย. 2566

SME Inspiration

ในยุคที่การสั่งอาหาร ง่ายและรวดเร็วทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนไปสั่งอาหารแบบดิลิเวอรีผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดธุรกิจที่เรียกว่า Cloud Kitchen หรือร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้านเกิดขึ้น และเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ได้เข้ามาสร้างธุรกิจ เช่นเดียวกับ คุ้มสึ แบรนด์ข้าวหน้าเนื้อ โดยคุณจักรรัฐ โชติดำรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คุ้มสึ จำกัด ที่สร้างธุรกิจบน Cloud Kitchen ให้เติบโตและมียอดขายกว่า 3 ล้านชาม ที่พร้อมจะมาเปิดเผยเคล็ดลับความสำเร็จให้ทุกคนได้รู้

 


Cloud Kitchen คือ การทำร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้าน โดยเน้นการขายผ่านทางช่องทางออนไลน์ และส่งให้ลูกค้าผ่านระบบดิลิเวอรี ปัจจุบันคุ้มสึมีประมาณ 65 สาขา ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล ถ้าต่างจังหวัดก็จะมีที่เชียงใหม่ ขอนแก่น โคราชและกำลังเร่งขยายไปตามหัวเมืองในภาคอีสานเร็วๆ นี้

จุดเด่นของคุ้มสึ คือ เรื่องคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่เราจะเน้นในเรื่องของความคุ้มค่า และประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องรสชาติอาหารที่อร่อย เนื้อที่เราคัดสรรมาเป็นอย่างดี ความคุ้มค่าในเรื่องราคา การบริการ เหมือนกับสโลแกนที่เราวางไว้ คุ้มค่า คุ้มเวลา คุ้มสึ

ที่มาของคุ้มสึ เกิดจากที่ผมทำธุรกิจบุฟเฟต์มาก่อน ทำให้ผมได้ราคาเนื้อมาในราคาของตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าตลาดทั่วไป ทำให้เราคิดว่าจะนำเนื้อที่ได้มานี้มาต่อยอดอะไรได้อีกบ้าง ประกอบกับที่ผมเองก็เป็นคนชอบกินข้าวหน้าเนื้ออยู่แล้วด้วย ประกอบกับในช่วงนั้นคนยังทำ Cloud Kitchen ไม่มากทำให้มองเห็นโอกาสตรงนี้



ทำไมต้องเป็นข้าวหน้าเนื้อ

จริงๆ แล้วก็มาจากความชอบส่วนหนึ่ง และแบรนด์ข้าวหน้าเนื้อที่ขายอยู่ในไทยส่วนใหญ่มีราคาค่อนข้างสูง ทำให้คนทั่วไปเข้าถึงยาก ผมเลยอยากทำข้าวหน้าเนื้อที่สามารถเข้าถึงทุกคน และกินได้ทุกวัน ซึ่งถ้าเป็นข้าวหน้าเนื้อแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น มันจะคล้ายๆ กับเนื้อต้มซีอิ๊วซึ่งรสชาติไม่น่าจะถูกปากคนไทยนัก เราเลยทดลองปรับสูตรกับทีม R&D ใช้เวลาพัฒนาอยู่ 6 เดือนจนได้กลายมาเป็น ข้าวหน้าเนื้อพ่นไฟ ที่เป็นเมนูเอกลักษณ์ของเรา ซึ่งขายดีมาก ปัจจุบันขายได้กว่า 3 ล้านชาม และเรายังมีเมนูข้าวยหน้าเนื้ออื่นๆ อีกหลายอย่างเช่น ข้าวหน้าหมูสามชั้นพ่นไฟ ข้าวหน้าหมูสามชั้นผัดกิมจิและมีข้าวหน้าเนื้อหมาล่า ก็อยากให้ทุกคนได้ลองชิมกันนะครับ



เคล็ดลับขายดีบนCloud Kitchen

ข้อดีของ Cloud Kitchen อันแรก คือ ไม่มีหน้าร้าน ซึ่งทำให้ไม่มีงบตกแต่ง ทำให้เราสามารถนำงบนั้นไปใช้เป็นงบการตลาดแทนได้ อันที่ 2 คือ ทำเลของเราจะถูกกว่าที่อื่นได้ เพราะไม่จำเป็นต้องหาทำเลที่ติดกับถนนใหญ่ หรือเดินทางสะดวก หน้าร้านของเราอาจจะอยู่ในซอย อยู่ในโครงการที่ไม่ดังมาก เพราะสุดท้ายพวกแพลตฟอร์มต่างๆ ก็จะมี GPS ซึ่งจะพาไรเดอร์มาที่ร้านของเราได้อยู่แล้ว ทำให้เราสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างคล่องตัวและมีต้นทุนที่น้อยกว่าธุรกิจอื่นๆ

นอกจากนี้เรายังใช้กลยุทธ์เรื่องความใกล้มาเป็นจุดขาย โดยเลือกเจาะตลาดในโซนออฟฟิศอย่างสุขุมวิท ราชเทวี ปทุมวัน สีลม สาทร เพื่อให้ลูกค้าได้รับอาหารที่รวดเร็ว และไม่ต้องจ่ายค่าส่งในราคาแพง อย่างเช่น สาขาแรกของคุ้มสึ จะอยู่ที่สุขุมวิท 31 เพราะว่า มีโฮมออฟฟิศ เป็นพื้นที่อยู่อาศัย ทั้งคอนโด ทั้งบ้านพัก

จากกลยุทธ์นี้ ภายใน 2-3 เดือน ยอดขายผมก็เริ่มมาจาก 60,000 บาทเป็น 120,000 บาทเป็น 240,000 บาท เติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนยอดถึงล้านบาท จากนั้นผมก็เริ่มขยายสาขาจาก 1 สาขากลายเป็น 5 สาขา เป็น 10 สาขา 20 สาขา ขึ้นตามลำดับ ตอนนั้นทีมงานก็ทำงานกันทั้งวันทั้งคืน แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ซึ่งผลที่ได้ในปี 2565 เราปิดยอดขายได้กว่า 200 ล้านบาท ก็ถือว่าลูกค้าให้การตอบรับอย่างดี และเราก็มุ่งมั่นที่จะทำของอร่อย และคุ้มค่าอย่างนี้ต่อไปอีกครับ



เป้าหมายต่อไปของคุ้มสึ

ด้วยความที่คุ้มสึเราเติบโตบนแพลตฟอร์ม เราก็อยากจะอยู่ในธุรกิจนี้ต่อไป และขยายไปในตลาดต่างประเทศอย่าง อินโดนีเซีย สิงคโปร์ มาเลเซีย ซึ่งจะไปถึงได้เราต้องขยายตลาดในประเทศให้ครอบคลุมมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ก่อน จากนั้นถึงค่อยไปในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ตามเป้าที่เราตั้งเอาไว้ครับ


ไทยเครดิต STANDBY

การทำธุรกิจเงินทุนสำรองสำคัญมาก ภายใต้แบรนด์ของเรา ไม่ได้มีแค่ข้าวหน้าเนื้อ แต่ยังมีอาหารอร่อยอีกเยอะ ซึ่งเราพร้อมที่จะขยายธุรกิจ แต่ว่าถ้าขาดการสนับสนุนที่ดี เราก็ขยายได้ช้า ต้องขอบคุณทางธนาคารไทยเครดิตจริงๆ ที่ช่วยคุ้มสึเติบโตได้ไวอย่างที่ต้องการเลยครับ

สาระ SME น่ารู้ที่เกี่ยวข้อง