24 พ.ค. 2567
SME Inspiration
ทุกๆ การเติบโตย่อมมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เช่นเดียวกับบริษัท เอ็ม.เค.แอล จำกัด ธุรกิจสีและเคมีภัณฑ์ที่กำลังมีการเปลี่ยนผ่านการบริหารงานจากรุ่นพ่อ ไปสู่ รุ่นลูก ทำให้รูปแบบของการบริหารงานอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงจากแนวคิดของคนรุ่นก่อนและคนรุ่นใหม่ที่มาผสมผสานกัน ครั้งนี้ เราได้รับเกียรติจากคุณเลิศชาย เสรีชวโรจน์ กรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยบุตรชาย คุณธันวา และ คุณภาดา เสรีชวโรจน์ ผู้บริหารจากบริษัท เอ็ม.เค.แอล จำกัด ที่จะมาเล่าถึงการทำธุรกิจ และความท้าทายในการสร้างธุรกิจให้เติบโต จากรุ่นพ่อไปสู่รุ่นลูก
คุณเลิศชาย : ผมอยู่ในอุตสาหกรรมสีและเคมีภัณฑ์ก่อสร้างมากว่า 30 ปี จุดเริ่มต้นของผมที่มาทำธุรกิจสีและเคมีภัณฑ์ คือ หลังจากจบการศึกษา ผมก็อยู่ในวงการวัสดุก่อสร้าง เมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา ก็เริ่มจากเป็นเซลล์และก็ได้เดินทางทั่วประเทศ ก็สนิทกับลูกค้าขายวัสดุก่อสร้าง เราเล็งเห็นว่าตลาดสีมีศักยภาพ มีโอกาสเติบโต และตอนนั้นมูลค่าตลาดสูงมาก เราก็เลยความสนใจและก็เน้นศึกษา จนเชี่ยวชาญแล้วก็เลยมาเปิดโรงงาน
ตอนนั้นจะแบ่งสี 3 ระดับ เป็นระดับพรีเมียม ระดับกลาง และระดับชั้นประหยัด เราเริ่มจากสีประหยัดก่อน กลุ่มใหญ่จะเป็นสีระดับกลาง ซึ่งตัวนี้ตลาดค่อนข้างที่จะเติบโต แล้วค่อยๆ พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ ปรับปรุงมาเรื่อยๆ เริ่มจากที่เราได้ความรู้ใหม่ๆ จากคู่ค้าต่างประเทศคอยสนับสนุนเรื่องวิชาการ เรื่องเทคนิค เราก็เลยมาทำพวกสีระดับพรีเมียมมากขึ้น จนขอมาตรฐานอุตสาหกรรม เป็นสีระดับกลางและพรีเมียม ซึ่งตอนนี้เรามีครบทุกระดับ
คุณเลิศชาย : จุดขายของเราก็มี 2 อย่างหลักๆ แค่นั้นเอง คือ 1 ในเรื่องของสินค้า สินค้าต้องมีคุณภาพอันที่ 2 นี่เน้นอย่างมากเลย ก็คือความจริงใจกับลูกค้า ในความจริงใจกับลูกค้านี้ เราจะมีลูกค้าที่สนิทสนมเหมือนญาติ ที่ค่อยสนับสนุนเรามาตลอด
คุณเลิศชาย : รุ่นลูกก็มาบริหารแทนต่อจากผมแล้วครับ เด็กรุ่นใหม่มา เขาก็เอาระบบใหม่ๆ ซึ่งทันสมัยมาบริหารงานช่วยงานได้เยอะมาก อย่างเช่น ระบบ ERP และระบบการทำงานอัตโนมัติ ช่วยในการพัฒนาเครื่องมือของห้องปฏิบัติการที่ทำงานวิจัย เขาก็มาเสริมได้เยอะมาก
คุณภาดา : ตั้งแต่รุ่นพ่อมายุคแรกๆ ที่ทำการค้าขาย ซื้อขายอะไรก็ค่อนข้างง่าย ไม่ต้องมีบรรจุภัณฑ์ที่สวยมาก หรือไม่ต้องทำการตลาดที่ดีมาก ก็สามารถขายได้แล้ว แต่ว่าเนื่องจากในยุคปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูงขึ้นอย่างมาก ทำให้เราแค่ราคาถูกกว่าเขาอย่างเดียวก็ไม่พอ เราต้องรู้จักการทำโปรโมชันการตลาด ที่เหนือกว่าคู่แข่งด้วย เนื่องจากแต่ก่อนบริษัทต่างๆ ก็ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ทางธุรกิจ หรือการตลาดมากเท่าไหร่ รุ่นคุณพ่อผมทำมาก็จะทำสินค้าที่มีข้อตกลงร่วมกัน ในแต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอก็จะมีแบรนด์ต่างๆ แยกย่อยกันไป ซึ่งทำให้มีแบรนด์ที่หลากหลาย พอมารุ่นผม ผมอยากจะมุ่งเน้นเพียงแค่ 2 แบรนด์ คือ M1 และ Timer Shield ผมมองว่าการที่เจาะจงทั้ง 2 แบรนด์นี้ จะง่ายต่อการทำการตลาด และประหยัดงบประมาณมากกว่าครับ
คุณภาดา : การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ เอ็ม.เค.แอล.ในยุคของผม สำหรับการแข่งขันของแบรนด์เล็กๆ เราต้องหาจุดเด่นของสินค้าที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ ในตลาด ตอนนี้เรากำลังมุ่งเน้นที่การวิจัย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของ เอ็ม.เค.แอล. ตั้งแต่การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีกลิ่นอ่อน เราคำนึงถึงการใช้งาน เช่น การดูดซับกลิ่น หรือสารอินทรีย์ระเหย รวมทั้งฟอร์มาลดีไฮด์ที่มาจากการเคลือบเฟอร์นิเจอร์ สารเหล่านี้เป็นสารก่อมะเร็ง ส่งผลอันตรายต่อสุขภาพ สินค้าของเราจะสามารถดูดซับสิ่งพวกนี้ เพื่อทำให้สุขภาพของผู้บริโภคปลอดภัยมากขึ้น ทุกสินค้าที่หลากหลายของ เอ็ม.เค.แอล. จะมุ่งเน้นไปในด้านความปลอดภัยต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทั้งของผู้ใช้และผู้บริโภค ซึ่งสีทุกถังของเราผลิตโดยมีมาตรฐาน คือ ISO ส่งเข้าห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องมือ เทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่างเช่น เครื่องขัด เครื่อง QUV มีการวัดความหนืด ความถ่วงจำเพาะมาตรฐานต่างๆ ก่อนที่จะบรรจุลงถัง ทุกถังที่ออกมาจากเรา เราคำนึงถึงเรื่องมาตรฐานการผลิต เราจะมีการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ทุกๆ ถัง ทุกๆ รอบการผลิต ซึ่งเราจะมีการเก็บตัวอย่างไว้ชิ้นหนึ่ง ไว้ในห้องปฏิบัติการ แต่ละรอบการผลิตสามารถตรวจสอบค้นหาได้เลยว่ามีการผิดพลาดตรงไหนบ้าง ก่อนที่จะออกมาส่งให้กับลูกค้า เพราะฉะนั้นเราพิถีพิถันในกระบวนการผลิตมากครับ
คุณภาดา : สิ่งหนึ่งที่ผมยึดมั่นมาตั้งแต่รุ่นคุณพ่อ คือ การสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อทำให้เขารู้สึกเหมือนเป็นหนึ่งในครอบครัวของเรา อีกวิธีหนึ่งในการทำการตลาดของเราก็คือ พยายามปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ทันสมัยมากขึ้นเพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่ๆ เจเนอเรชันใหม่ๆ และยังมีการเพิ่มช่องทาง ทางการสื่อสาร ทางออนไลน์ เช่น Facebook YouTube Line Official ด้วยครับ เพื่อให้ทันสมัยกับโลกยุคปัจจุบัน ช่องทางการจัดจำหน่ายของ เอ็ม.เค.แอล.ปัจจุบันเรามี ตัวแทนจำหน่ายทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งร้านค้าปลีก ส่งแบบเก่า และร้านค้าสมัยใหม่ นอกจากนี้เรายังมีการส่งไปที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว พม่า และกัมพูชา
คุณภาดา : รู้สึกค่อนข้างกดดันนิดหน่อยครับ เราไม่เคยทำธุรกิจที่ต้องแบกรับภาระลูกน้องหลายๆ คน พอมาทำตรงนี้ การขยับตัว การขยับอะไรสักอย่างเป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ ในการตัดสินใจแต่ละครั้ง คือเนื่องจากประสบการณ์ยังมีน้อยไม่เคยตัดสินใจเรื่องใหญ่ เราก็จะกล้าๆ กลัวๆ เพราะฉะนั้น เราจะต้องมีการหาข้อมูลที่มากเพียงพอ ปรึกษาผู้ที่มีประสบการณ์หลายๆ ท่าน มาประกอบการตัดสินใจ เพื่อให้มั่นใจที่สุดว่า การตัดสินใจในแต่ละครั้ง เราทำมันดีที่สุดแล้ว ต่อให้มันผิดพลาด เราก็จะไม่เสียดายครับ
คุณเลิศชาย : เงินทุนมีส่วนสำคัญในการทำธุรกิจอย่างมาก เกี่ยวกับเรื่องเครดิตที่เราต้องรองรับลูกค้า และก็การนำมาใช้กับเทคโนโลยี เครื่องจักรใหม่ๆ ห้องปฏิบัติการใหม่ซึ่งต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนมากพอสมควร ซึ่งเราได้รับการสนับสนุนเรื่องเงินทุนจากธนาคารไทยเครดิต ซึ่งบริการดีมาก สามารถตอบโจทย์ให้ผมได้ในเรื่องระยะเวลา และข้อมูลต่างๆ ช่วยผมได้เยอะมาก ก็ขอขอบคุณมากครับที่มีส่วนร่วมสนับสนุนธุรกิจผมเป็นอย่างดี