15 ก.ย. 2566
SME Inspiration
จากแรงบันดาลใจของ คุณสมชาย วงศ์นันตา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นันตา ฟู้ด จำกัด ที่ได้เห็นไส้หมูหยองจากแซนด์วิชสามเหลี่ยมที่ขายในตลาด จนเกิดเป็นธุรกิจผลิตหมูหยองเล็กๆ ในบ้านเช่าทำส่งขายเป็นวัตถุดิบให้กับร้านเบเกอรี่ ปัจจุบันคุณสมชายสามารถขยายธุรกิจให้เติบโตจนกลายเป็นผู้ผลิต หมูหยอง ไก่หยองสำเร็จรูปที่ส่งขายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มียอดขายมากกว่า 300 ล้านบาทต่อปี เคล็ดลับความสำเร็จของคุณสมชายคืออะไร ตามไปหาคำตอบกันได้เลย
จุดเริ่มต้นธุรกิจก็มาจากที่ผมไปเห็นแซนด์วิชสามเหลี่ยมที่ขายในตลาด ซึ่งตอนนั้นเป็นที่นิยมมาก ข้างในก็จะมีไส้ต่างๆ รวมถึงไส้หมูหยองด้วย เราก็เลยเกิดไอเดียขึ้นมาว่า ถ้าหากจะผลิตไส้หมูหยองและส่งเป็นวัตถุดิบให้กับร้านเบเกอรี่เอาไปผลิตขนมปังต่อจะทำยังไงได้บ้าง ช่วงนั้นผมยังไม่มีประสบการณ์ เงินทุนก็ไม่มาก อาศัยเพียงความกล้าคิด กล้าทำ แม้ไม่รู้ว่าจะทำสำเร็จมั้ย แต่ผมก็เชื่อนะว่าจะต้องทำได้
ซึ่งในตอนนั้นต้นทุนหมูหยองที่จะใช้ผลิตเบเกอรี่มีราคาสูง และมีคู่แข่งที่ทำแบบเราในตลาดไม่เยอะ ผมเลยคิดว่าถ้าหากเราสามารถผลิตหมูหยองทำต้นทุนให้ถูกกว่าเจ้าอื่นและคุณภาพดี เราก็น่าจะเข้าสู่ตลาดและขายของได้
ช่วงเริ่มต้นเราไปเช่าทาวน์เฮ้าส์และก็ผลิตหมูหยองในทาวน์เฮ้าส์ เราไปส่งให้กับร้านค้า โรงงานเบเกอรี่เล็กๆ ตอนนั้นยอดขายวันหนึ่ง 20-30 กิโลกรัมต่อวัน จากนั้นเรามียอดขายวันหนึ่ง 200-300 กิโลกรัม เราเริ่มมีทุนก็ไปซื้อที่ทำโรงงานแห่งแรกของเราจากโรงงานเล็กๆ 230 ตารางวา เริ่มมีลูกค้าเข้ามาให้เราทำ OEM ให้กับแบรนด์ฮ่องกง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีมาก หมูหยองประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ในฮ่องกงเป็นหมูหยองที่ผลิตจาก นันตา ฟู้ด
หลังจับจุดได้แล้ว ธุรกิจของผมก็เติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ แต่จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดก็คือ มีห้างค้าปลีกและค้าส่งชั้นนำ มาติดต่อให้เราทำ OEM ให้เป็นแบรนด์ของเขา ทำให้ยอดขายของเราเติบโตขึ้นเป็น 1,000-2,000 กิโลกรัมต่อวัน
จากจุดนั้นทำให้เรามีทุน เราจึงกล้าตัดสินใจซื้อที่ 12 ไร่ เป็นที่ตั้งโรงงานปัจจุบัน สามารถรองรับการผลิตได้ 5-6 ตันต่อวัน ปัจจุบัน 60 เปอร์เซ็นต์ของการผลิต เราทำเป็นหมูหยองเบเกอรี่ และส่งไปขายยังร้านอุปกรณ์เบเกอรี่ทั่วประเทศ เรายังรับทำ OEM ให้กับแบรนด์ต่างประเทศ และยังทำแบรนด์ของตัวเอง คือ แบรนด์นันตา แบรนด์เดลิชครับ
หลักสำคัญของการทำงานที่ผมยึดถือมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่เริ่มสร้างธุรกิจ และทำให้เราเติบโตมาได้ถึงวันนี้ คือ ความซื่อสัตย์กับลูกค้า ทำสินค้าให้มีคุณภาพดีและสม่ำเสมอ การที่เราอยู่ได้หรืออยู่ไม่ได้ เราก็ต้องควบคุมคุณภาพของเราให้ดีและมีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา
ผมเชื่อในเรื่องความขยัน ไม่หยุดนิ่ง หรือคิดว่าแค่นี้ก็พอแล้ว การไม่หาลูกค้าเพิ่มหรือมองหาโอกาสใหม่ๆ ให้ธุรกิจ ก็จะทำธุรกิจเราอยู่กับที่ ไม่โตขึ้นไปมากกว่าเดิม
กว่า 30 ปี ที่ผ่านมา จากที่ไม่มีอะไรเลย เป็นแค่คนที่ฝันอยากเป็นนายของตัวเอง ถึงทำให้เรากล้าคิด กล้าทำธุรกิจ แม้ไม่รู้ว่าประสบความสำเร็จไหม แต่ผมก็มั่นใจนะว่าจะต้องทำได้ เพราะฉะนั้น เมื่อมีเป้าหมายแล้ว เราต้องไปให้ถึง และต่อไปในอนาคตเราคิดว่าเราไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ เราจะต้องขยายให้มันใหญ่กว่าเดิม
ผมวางเป้าหมายว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า จะต้องพาบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ให้ได้ เพื่อที่เราจะได้เข้าถึงแหล่งทุนที่ใหญ่ขึ้น และมีโอกาสที่จะขยายตลาดได้มากกว่าเดิม ภายใน 3 ปี เรามีเป้าหมายว่าจะต้องทำยอดขายให้ได้มากกว่า 1,000 ล้านต่อปี
การที่เราจะเติบโตและไปได้ไกล ต้องมีแหล่งเงินทุนที่มาสนับสนุน ช่วยผลักดันเราให้ไปไกล ธนาคารไทยเครดิตก็มีส่วนที่ผลักดันให้เรามาถึง ณ ปัจจุบัน ให้คำแนะนำอย่างสม่ำเสมอ เราต้องขอบคุณธนาคารไทยเครดิตเป็นอย่างมาก