เคนโด้อิเล็คทริค เกือบปิดบริษัท แต่กลับมาได้..เพราะรีดไขมันธุรกิจ

26 ส.ค. 2567

SME Inspiration

“เคนโด้” หนึ่งในแบรนด์กระทะไฟฟ้าที่ครองใจผู้บริโภคมากว่า 30 ปี นอกจากกระทะไฟฟ้าที่เป็นสินค้ายอดนิยม ยังมีเครื่องครัวราคาประหยัดอีกหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น กาต้มน้ำไฟฟ้า เตาไฟฟ้า เตารีดไฟฟ้า แต่เพราะการเติบโตที่รวดเร็วกลับทำให้ธุรกิจต้องผ่านจุดเปลี่ยนที่สําคัญ เพื่อรักษาธุรกิจเอาไว้ให้ได้ ครั้งนี้ เราจึงได้รับเกียรติจาก คุณวีรสิทธิ์ อัศวทวีบุญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคนโด้อิเล็คทริค จำกัด ที่จะมาแชร์ประสบการณ์ และแนวทางในการพาบริษัทฝ่าวิกฤตเพื่อเอาตัวรอด

 



กระทะไฟฟ้าคู่บ้าน

เคนโด้อิเล็คทริค เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2539 จนถึงตอนนี้ก็เกือบจะ 30 ปี ในช่วงแรกสินค้าที่เราผลิต ก็จะมีเฉพาะกาต้มน้ำไฟฟ้า ถ้าในช่วงนั้นเราถือว่าเราเป็นเจ้าแรกๆ ที่ผลิตและจําหน่ายก็ว่าได้ ต่อมาเราก็มีการขยายการผลิตเพิ่มขึ้น มีกระทะไฟฟ้า ซึ่งทํายอดขายประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์เป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดของเคนโด้ นอกจากนี้ก็ยังมี เตาไฟฟ้า เตารีดไฟฟ้า มีหลายรุ่น หลายขนาด ให้เหมาะกับความต้องการของลูกค้า และเราก็ยังเปิดไลน์สินค้าใหม่ คือ เป็นเครื่องครัวอะลูมิเนียม เช่น กรวยใส่อาหาร ที่กรอกน้ำ ที่กรอกอาหาร เป็นต้น



วิธีครองใจลูกค้ามากกว่า 30 ปี

พูดถึงสินค้าเคนโด้ สิ่งแรกที่ลูกค้าส่วนใหญ่จะนึกถึงเลย คือ
ข้อ 1. ความแข็งแรงทนทานในการใช้งาน เราให้ความสําคัญกับเรื่องความซื่อสัตย์กับลูกค้า ในการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ทุกชิ้นส่วน ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เช่น อะลูมิเนียมเราใช้เกรดที่มีคุณภาพชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีมาตรฐาน เรื่องสายไฟเราจะใช้ทองเหลืองเพราะไม่ทำให้เกิดสนิม ส่วนสายไฟเราเลือกใช้ของดีมีคุณภาพ
ข้อ 2. สินค้าจําพวกเครื่องครัวที่ผลิตด้วยอะลูมิเนียม ทุกผลิตภัณฑ์เราใช้เทคนิคในการผลิตเข้ามาช่วย ทําให้ไม่มีรอยต่อ ทําให้ไม่มีมุมคม ทําให้มีความปลอดภัยในการใช้ และเนื่องจากมันไม่มีรอยต่อ จึงทําให้ไม่เป็นที่สะสมของเศษอาหารทําให้เกิดความสะอาดในการใช้งานปลอดภัยทั้งผู้บริโภค ซึ่งรายละเอียดเล็กๆ เหล่านี้ คือ สิ่งที่ ทําให้เราผลิตสินค้าแตกต่างจากผู้ผลิตรายอื่น
ข้อ 3. สินค้าทุกชิ้นต้องมีคุณภาพในการผลิต ได้มาตรฐานผ่านการตรวจสอบสินค้าหลายครั้ง ก่อนจะลงกล่องส่งถึงมือผู้บริโภค
ข้อ 4. สินค้าของเคนโด้การันตีมาตรฐานในการใช้ให้กับลูกค้า หากเกิดปัญหาสามารถส่งกลับมาเคลมหรือซ่อมที่โรงงานได้ครับ เราพยายามทำให้เกิดความคุ้มค่าในการใช้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพ ราคาที่ย่อมเยา ยกตัวอย่าง ลูกค้าซื้อกระทะของผมไปใบหนึ่งราคา 360 บาท ถ้าลองหารด้วย 365 วัน ต่อปีเฉลี่ยต้นทุนในการใช้สินค้าของผม ตกวันหนึ่งไม่ถึงบาทด้วยซ้ำ แล้วก็ยังมั่นใจด้วยว่าใช้ได้ครบทุกวัน มีปัญหาสามารถเคลมได้ที่โรงงาน



การแข่งขันของธุรกิจไซซ์เล็ก

กลยุทธ์ในการขายของสินค้าเคนโด้ ผมจะเน้นกลุ่มลูกค้าระดับกลางลงมา เช่น กลุ่มนักศึกษา คนที่อาศัยอยู่ตามหอพัก อะพาร์ตเมนต์ เป็นพ่อค้าแม่ค้า คนทํางานทั่วไป ที่ต้องการความสะดวกในการปรุงอาหาร เราต้องใช้ราคาเข้ามาแข่งขัน เพราะถ้าราคาสูงเกินไปเราก็จะไม่มีที่ยืนในตลาด เพราะปัจจุบันนี้เราไม่ได้แข่งขันกับสินค้าที่เป็นแบรนด์ไทยอย่างเดียว แต่เรายังต้องแข่งขันกับสินค้าจีน ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ ซึ่งเขาได้เปรียบเราในเรื่องของต้นทุนและราคา แต่จุดอ่อนของสินค้าจีน คือ การบริการหลังการขาย ซึ่งถ้าหากเสียหายหาที่ซ่อมลําบาก ขณะที่เราเป็นโรงงานผลิตเราใช้บริการหลังการขาย เข้ามาเป็นตัวช่วยตัวสําคัญ ในการแข่งขันกับสินค้าของจีน ลูกค้ามีปัญหาสามารถส่งกลับมาเคลม ส่งกลับมาซ่อม ซึ่งข้อนี้เราได้เปรียบสินค้าราคาถูก จากต่างประเทศที่เข้ามา เขาสู้เราไม่ได้ครับ



Lean Business Model

สําหรับเคนโด้เราเคยผ่านจุดเปลี่ยนที่สําคัญ เพื่อรักษาธุรกิจของเราให้ยังอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยการใช้แนวคิดที่เรียกว่า Lean Business Model จากเดิมที่เราขยายธุรกิจ ทําตลาดในห้างสรรพสินค้าสมัยใหม่ ควบคู่กับช่องทางค้าส่งและค้าปลีกทั่วไป ซึ่งทําให้ธุรกิจของเรา เติบโตตามการเติบโตของห้างสรรพสินค้าสมัยใหม่ มียอดขายสูงขึ้น แต่ในความเป็นจริงรายได้ และค่าใช้จ่ายกับสวนทางกัน ถ้าเปรียบเทียบก็เหมือนกับว่า เรามีแผลที่ใหญ่มากและเลือดไหลออกมาตลอดเวลา ถ้าไม่รีบรักษาเลือด เลือดก็จะไหลออกมาไม่หยุด เราต้องเลือกระหว่างยอดขายที่ลดลงกับยังไม่ตาย เราเลยต้องตัดสินใจที่จะห้ามเลือด และกลับไปมุ่งเน้นที่ตลาดหลักคือ ช่องทางค้าส่งและค้าปลีกทั่วไป ด้วยการทํา Lean Business Model ให้ตัวเราไม่อ้วน อะไรที่ไม่จําเป็นลดได้ ตัดได้ประหยัดได้ ต้องเซฟให้หมด เพื่อทําให้ตัวของเราลีนผอมที่สุด แล้วก็เริ่มต้นใหม่ ทิ้งชุดสูท ถอดเนคไท เปลี่ยนมาใส่รองเท้าผ้าใบ เสื้อยืดและกลับไปเดินตลาด มันเลยทําให้เรายังอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ครับ



ทำธุรกิจด้วยความกล้า

สําหรับผู้ประกอบการที่จะเริ่มต้นทําธุรกิจ สําหรับผมๆ คิดว่าความกล้าในการทําธุรกิจเป็นจุดสําคัญที่สุด ถ้าเริ่มต้นจากความกล้า ความกลัวจะลดลง แต่การที่เรามีความกล้าอย่างเดียวไม่พอ เราต้องมีความรู้ เพราะฉะนั้นก่อนที่จะทําธุรกิจใดๆ ก็แล้วแต่ศึกษาว่าสินค้าเรา คืออะไร ตลาดอยู่ที่ไหน ใครเป็นคนซื้อ ควรจะขายในราคาเท่าไหร่ ช่องทางเป็นอย่างไร ถ้าเรามีความรู้บวกกับความกล้า โอกาสที่จะประสบความสําเร็จมีสูงครับ

 


Thai credit Standby

จากการทําธุรกิจที่ผ่านมาสิ่งที่เป็นหัวใจของธุรกิจ คือ เรื่องของเงินทุนหมุนเวียน ที่เป็นเหมือนเลือดเข้ามาช่วยทําให้ร่างกายเราแข็งแรงและการได้รับสินเชื่อจากธนาคารไทยเครดิตในตอนนั้น ทําให้เราสามารถนําไปใช้ในการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ นําไปใช้ในการบํารุงรักษาเครื่องจักร ช่วยให้เราสามารถขยายกําลังการผลิต และเปิดช่องทางในการจําหน่ายสินค้าให้ครอบคลุมและเติบโตขึ้นได้ ต้องขอขอบคุณธนาคารไทยเครดิตด้วยครับ

สาระ SME น่ารู้ที่เกี่ยวข้อง