4 พ.ย. 2568
SME Inspiration
ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนโลก วงการ “ทองคำ” ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นจากร้านทำทองเก่าแก่ “ซุ่ยเซ่งเฮง” วันนี้ได้พลิกโฉมสู่แบรนด์ใหม่ “โกลด์เด้น 99” ร้านค้าทองที่กล้าฉีกกรอบการขายทองแบบดั้งเดิมสู่การทำธุรกิจค้าทองในยุคดิจิทัล ที่ต้องอาศัยความรวดเร็ว แม่นยำเพื่อเอาชนะความผันผวนของตลาดทองคำ และครั้งนี้เราได้รับเกียรติจากสองผู้บริหาร นำโดยคุณสมใจ ศรีรุ่งธรรม ประธานกรรมการ บริษัท โกลด์เด้น 99 จำกัด และคุณดลวัฒน์ เปล่งสุรีย์ กรรมการผู้จัดการ ที่จะมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการทำธุรกิจค้าทองให้ประสบความสำเร็จและเติบโตอย่างยั่งยืน
คุณสมใจ : เริ่มต้นคุณพ่อเป็นช่างทอง ทำทองส่งให้กับร้านทองที่เยาวราช หลังจากนั้นคุณพ่อคิดว่าอยากจะเปิดร้าน เพื่อรองรับงานด้วย ก็เลยได้เปิดร้านในชื่อ ซุ่ยเซ่งเฮง จนมาปี 2555 เพื่อเป็นการตอบรับต่อไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ จึงได้ไปเปิดสาขาแรกในนามของ โกลด์เด้น 99 แล้วต่อมาก็เปิดในห้างสรรพสินค้าต่างๆ มีถึง 34 สาขา ทั่วประเทศไทย เนื่องจากคุณแม่ดูแลธุรกิจนี้มานานกว่า 20 ปี ก็คิดว่าอยากจะส่งต่อให้ลูก เนื่องจากไลฟ์สไตล์เปลี่ยนแปลงไป รูปแบบของธุรกิจเปลี่ยนแปลงไป ก็คิดว่าเขาน่าจะทำได้ดีกว่ารุ่นคุณแม่

คุณดลวัฒน์ : ในธุรกิจร้านทองจริงๆ สิ่งสำคัญคือเรื่องของการสร้างความเชื่อมั่น แล้วก็ความคงเส้นคงวาของการมีวินัยในการทำธุรกิจ ซึ่งเป็นสิ่งที่คุุณแม่สอนมาตลอด สิ่งที่เพิ่มเข้ามาอันที่หนึ่ง เรื่องของการสื่อสารกับลูกค้าให้มากขึ้น ทั้ง Facebook YouTube TikTok แล้วก็มีร้านค้าติดอันดับของแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหลาย ในอันนี้คือสิ่งที่เอาเข้ามาเสริม เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงความเป็นแบรนด์ของเราได้มากขึ้น อีกอย่างหนึ่งเนื่องจากว่าตอนนี้ ธุรกิจคนที่หยุดอยู่นิ่งจะถอยหลังอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น สิ่งที่เราต้องเปลี่ยนแปลง เราต้องมีการสร้างการตลาดแบบเชิงรุกมากขึ้น ต้องมีการวิจัยเรื่องของความต้องการของลูกค้าอยู่ตลอดเวลา แล้วก็มีเรื่องของการขยายสาขา ที่เข้าหาลูกค้าให้มากขึ้น
วันนี้ลูกค้าสะดวกพอหรือยัง เราต้องสะดวกให้มากกว่านี้ เราจะต้องปรับธุรกิจจากเชิงรับที่เป็นอนุรักษ์นิยมอยู่เดิม ให้รุกมากขึ้น แต่ความมั่นคงในการทำธุรกิจ สร้างความน่าเชื่อถือ มีมาตรฐานใช้ราคาทองสมาคม มีการรับซื้อตามราคา สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค แล้วก็ใช้ทองมาตรฐานเยาวราช ก็เป็นสิ่งที่เราต้องทำอยู่ แล้วก็ทำต่อไป

คุณดลวัฒน์ : ร้านทองคงต้องแบ่งเป็นเรื่องของสินค้ากับบริการ จริงๆ สินค้าเรามีหลากหลาย ตั้งแต่ทองรูปพรรณ แล้วก็เพชรแท้มาตรฐาน GIA แล้วก็เรื่องของสินค้าความเชื่อสายมูต่างๆ แต่ว่าจริงๆ แล้ว สินค้าหลักก็คงเป็นเรื่องของทองคำมาตรฐานเยาวราช 96.5 เปอร์เซ็นต์ เป็นสินค้าที่เรียกว่าเสมอต้นเสมอปลาย มีลูกค้าซื้อ ลูกค้าขาย และก็แลกเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา อีกอันหนึ่งคือเรื่องของบริการ จริงๆ เราก็มีทั้งเรื่องของออมทอง รับซื้อ แล้วก็เรื่องของขายฝาก แต่ในทุกวันนี้เนื่องจากว่าราคาทอง มีแนวโน้มจะขึ้นอยู่ตลอดเวลา คนย่อมนิยมขายมากกว่าซื้อ แต่คนที่เขาพร้อมจะซื้อ เขาก็รู้สึกว่าการซื้อในวันนี้ ก็ต้องเกิดความมั่งคั่งในระยะยาวอยู่ดี เขาก็ยังคงมีการซื้ออยู่ เพราะฉะนั้น มันเป็นเรื่องของระบบนิเวศทางธุรกิจ ที่สร้างความมั่งคั่งให้กับลูกค้า และก็ทางร้านไปในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้น ไม่ว่าทองจะขึ้น หรือทองจะลง ร้านทองก็สามารถบริหารได้ครับ
คุณดลวัฒน์ : ราคาทองมีความผันผวน ในสมัยก่อนราคาทองอาจจะแค่ 6,000 บาท ขึ้นทีก็ 50 บาท 100 บาท แต่ทุกวันนี้ราคาทองขึ้นวันหนึ่งขึ้น 1,000 บาท ลง 1,000 บาท ภายในวันเดียว สิ่งสำคัญคือเรื่องความยากในการบริหารความเสี่ยง หากมีการซื้อขายสินค้าจำนวนมาก เราก็ต้องมีการหาทางทำกำไรกับสินค้านั้นอย่างรวดเร็ว ข้อที่ 2 คือเรื่องของการทำธุรกิจผ่านทางออนไลน์ เนื่องจากว่าร้านทองจริงๆ ยังเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องพยายามเข้ามาที่หน้าร้าน การพยายามสื่อสารไปทางออนไลน์ ก็ย่อมยากกว่าธุรกิจบางประเภท ที่สามารถซื้อขายผ่านทางออนไลน์ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่จริงๆ ลูกค้ายังอยากเลือกซื้อสินค้าอยู่ เพราะฉะนั้น การสร้างความสมดุลระหว่างการทำออฟไลน์กับออนไลน์ เป็นสิ่งที่ยังเป็นภารกิจสำคัญ ที่ผมต้องเข้ามาดูแล
คุณดลวัฒน์ : จุดเปลี่ยนหนึ่งที่สำคัญเลย ตอนที่ยุคโควิด-19 คือร้านทองของเราส่วนใหญ่ ตอนนั้นอยู่ในห้างสรรพสินค้า ซึ่งในช่วงนั้นห้างสรรพสินค้าทั้งหมดปิดหมดเลย เราก็รู้สึกว่านี้เป็นจุดเปลี่ยน ที่เราจะต้องลองก้าวออกมาจากนอกห้างสรรพสินค้าดู ทำให้ตอนนี้ซักประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ เราเริ่มอยู่ข้างนอกห้างสรรพสินค้ามากขึ้น ตอนนี้ทำให้เราเริ่มรู้จักลูกค้าในแบบกลุ่มใหม่ๆ มากขึ้น จุดเปลี่ยนสำคัญจุดที่ 2 คือ พอเราเข้ามา สิ่งที่เราให้ความสำคัญ คือเรื่องของการตลาดเป็นเรื่องของภาพลักษณ์องค์กร ซึ่งเราต้องสร้างเรื่องของความน่าเชื่อถือ แล้วก็ความเข้มแข็งขององค์กรของเราให้ทุกคนรู้จัก เมื่อก่อนคุณแม่เขาสอนพนักงานเขาดี บริการดีทุกอย่าง แต่ว่าไม่เคยบอกใคร เราก็ทำดีอยู่เงียบๆ วันนี้เราต้องพยายามบอกถึงคุณสมบัติของเรา ความดีของเราให้คนอื่นรับรู้มากขึ้น

คุณดลวัฒน์ : คติประจำใจของผม คือ เราจะต้องเป็นตัวเราเองในแบบที่ดีกว่าเดิม เหมือนในเรื่องการบริการของร้านค้าก็เหมือนกัน วันนี้เราบอกว่าลูกค้าบอกว่าเราได้ 10 เต็ม 10 แล้ว แต่วันพรุ่งนี้เราจะเป็น 10.51 ได้อย่างไรเพราะฉะนั้น ผมเชื่อว่าถ้าหากว่าเราเริ่มที่ตัวเองก่อนว่าพรุ่งนี้เราจะต้องตื่นมาในแบบที่ดีกว่าเดิม ลูกค้าย่อมได้ประโยชน์ขึ้นแน่นอน เป้าหมายอย่างหนึ่ง คือเรื่องของการเข้าถึงลูกค้าให้มากขึ้น ลูกค้าอยากจะขายทอง อยากจะได้เงินเลยทันที ลูกค้าจะสามารถเจอกับร้านทองเราได้อย่างไร อันนี้เป็นเป้าหมายว่า ลูกค้าจะต้องสามารถเข้าถึงร้านค้าของเราได้สะดวกมากขึ้น

คุณสมใจ : สำหรับสินเชื่อนี้มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะช่วงนี้ราคาทองเปลี่ยนแปลงสูงขึ้นเยอะ ไม่ว่าจะเป็นธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรับซื้อ เราก็ต้องใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นขายฝาก เราก็ต้องใช้เงิน เพราะฉะนั้น ธุรกิจนี้มีการดำเนินไปได้ก็ต้องมีสินเชื่อ สำหรับธนาคารไทยเครดิตไม่ว่าจะเป็นด้านไหน ทางธนาคารไทยเครดิตก็สนับสนุนมาตลอด โดยเฉพาะหลังๆ เราเปิดสาขาใหม่ สาขาหนึ่ง ต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ทางธนาคารไทยเครดิตก็ช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการทำเอกสาร ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำ ธนาคารไทยเครดิตบริการได้ดีมาก ที่สำคัญคือรวดเร็ว และเข้าใจธุรกิจของร้านทองอย่างยิ่ง สุดท้ายนี้ก็ต้องขอบพระคุณ ธนาคารไทยเครดิตที่ให้การสนับสนุน ในด้านการเงินแล้วก็บริการต่างๆ ของร้านทอง ก็ขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะ