SME กล้าเปลี่ยน JONES’ SALAD “บริหารธุรกิจให้โตในแบบ JONES’ SALAD”

1 ธ.ค. 2565

SME Inspiration

พบกับคุณกล้อง อาริยะ คำภิโล เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร JONES’ SALAD ที่กล้าฝันและลงมือทำกับเป้าหมายที่วางไว้ “Top of Mind ในเรื่องของสลัด” กับเส้นทางดูสวยงามแต่กลับพบเจออุปสรรคมากมายตั้งแต่เปิดธุรกิจ จุดเปลี่ยนอย่างโควิดที่ทำให้ธุรกิจของเขาต้องปรับตัวอย่างหนักโดยไม่ทิ้งใครไว้กลางทาง เขามีแนวคิดและวิธีการอย่างไรให้สามารถพาธุรกิจเติบโตและต่อยอดได้จนถึงทุกวันนี้ไปหาคำตอบกันได้ใน SME กล้าเปลี่ยน JONES’ SALAD
 

 



 

เส้นทาง 9 ปี ของ JONE’S SALAD กับ 15 สาขา

JONES’ SALAD เปิดมา 9 ปีแล้ว ตอนนี้มีทั้งหมด 15 สาขา สาขานี้เป็นสาขาล่าสุด ที่ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จริงๆ ในเมืองเราเปิดค่อนข้างเยอะแล้ว เราก็เลยอยากจะออกมาตามปริมณฑลบ้างแล้วแถวนี้เราก็ยังไม่มีร้านเลย ก็เลยคิดว่าน่าจะดีที่ได้มาเปิดแถวนี้


 

หนทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

เปิดสาขาแรกมาก็เจอดีเลย ไม่ใช่ขายไม่ดีนะ แต่ขายดีจนเจ้าของที่อยากมาขายแทนเรา ตอนนั้นเราไปเปิดอยู่ที่ฟู้ดคอร์ตแห่งหนึ่ง ยอดขายโอเคมากเลย แต่ว่าอยู่ดีๆ เจ้าของที่ก็มาขอขึ้นค่าเช่า บอกเราแป๊บเดียวก่อนหมดสัญญาเช่าขึ้นค่าเช่าจาก 30,000 บาท เป็นเดือนละ 300,000 กว่าบาท ช็อกมากเลย เขาบอกว่าถ้าอยู่ไม่ได้ก็ออกไป ซึ่งตอนนั้นก็อยู่ไม่ไหวจริงๆ ก็เลยต้องปิดสาขานั้นไป แล้วก็ออกมาหาทางใหม่ว่าจะทำอย่างไรกับ JONES’ SALAD ของเราได้

 

คุณภาพอาหารอย่างเดียวไม่พอ การตลาดต้องดีด้วย

หลังจากนั้นเราก็มานั่งคิดกับตัวเองว่า จริงๆ แล้วทำร้านอาหารไม่ได้แค่ขายอาหารอย่างเดียวก็พอ ไม่ใช่ว่าอาหารอร่อยก็พอ เรื่องการเงิน เรื่องอะไรต่างๆ ซึ่งตอนนั้นโจทย์ที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ต้องปิดสาขา ก็คือเราอาจจะยังไม่มีแบรนด์ที่แข็งแรงพอมาสนใจเรื่องการทำมาร์เก็ตติ้งและแบรนด์ดิ้งมากขึ้น

 

สร้างแบรนด์จากความคิดสร้างสรรค์

พอเรารู้แล้วว่าเรื่อง “แบรนด์” เป็นเรื่องสำคัญ เราไม่ได้มีเงินถุงเงินถังเหมือนแบรนด์ใหญ่ๆ ที่จ่ายค่ามาร์เก็ตติ้ง แบรนด์ดิ้งเดือนละหลายๆ ล้านบาท ในช่วงนั้นโซเชียลมีเดียกำลังมา เราเลยใช้ความคิดสร้างสรรค์ ใช้ความชอบของเราที่ชอบอ่านการ์ตูนมาทำเป็นเพจที่เล่าความรู้เกี่ยวกับสุขภาพก็เลยเกิดเป็นเฟซบุ๊กที่ชื่อว่า “JONES’ SALAD” ก็จะมีลุงโจนส์เป็นการ์ตูนสรุปเรื่องความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาสุขภาพ การออกกำลังกาย อาหารอะไรต่างๆช่วงแรกทำเองทั้งหมดเลย ทั้งวาดเอง หาข้อมูลเอง คิดเนื้อหา คิดมุก คิดอะไรเองหมด



จากการสร้างแบรนด์ สู่การแตกไลน์ธุรกิจ

ทำเองมาประมาณ 2 ปี ได้เสียงตอบรับดีมาก แบบดีเกินคาด หลังจากนั้นเริ่มรู้สึกว่าทำเองคนเดียวไม่ไหวแล้ว เริ่มแบบร้านไม่ค่อยได้เข้า ก็เลยรู้สึกว่าต้องมีทีมมีเดียของ JONES’ SALAD ซึ่งจดทะเบียนแยกมาเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่รับทำงานมีเดียให้ลูกค้า Infographic, Video, Motion Graphic ก็มีลูกค้าหลายแบรนด์เลยมาใช้บริการกลายเป็นว่าต่อยอดจากธุรกิจเดิม ก็เกิดเป็นธุรกิจใหม่ขึ้นแต่ละส่วนก็สามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง

 

เพราะตั้งใจที่ลูกค้าจึงสัมผัสได้

สิ่งที่ทำให้ลูกค้าชอบร้านของเรา ก็คือเรื่องที่เราตั้งใจทำสลัดจริงๆ เหมือนกับว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้อย่างผักและอะไรต่างๆ ที่เราคัดสรรมา ก็ปลอดสารพิษแน่นอนที่สำคัญที่สุดคือน้ำสลัด เราใช้วัตถุดิบจริงๆ เป็นโฮมเมดจริงๆ ซึ่งเดี๋ยวนี้เวลาจะกินสลัดแต่ละที่ สมมติว่าเราไปกินตามร้านทั่วไป เราก็อาจจะเจอน้ำสลัดที่เป็นกระบวนการแบบอุตสาหกรรมเช่นสมมติว่า อยากกินน้ำสลัดซีซาร์ บางทีนำแค่มายองเนสมาใส่กลิ่นซีซาร์ ก็เป็นน้ำสลัดซีซาร์แล้ว แต่ของเรายังทำด้วยวิธีดั้งเดิม คือ เราก็เอาไข่ เอาอะไรมาตีเป็นมายองเนส แล้วเราก็ใส่ปลาแอนโชวี่จริงๆ เราใส่ชีสจริงๆ เข้าไป คนที่กินสลัดจริงๆ จะรู้ว่ามันแตกต่าง แล้วเขาจะชอบที่ได้กินสลัดที่พรีเมียมจริงๆ

 

เราโตคุณโต win-win situation ใช้ความจริงที่จับต้องได้ช่วยบริหารธุรกิจ

หลักสำคัญในการทำร้าน JONES’ SALAD ของเรานะครับ ผมเองเป็นคนที่อยู่ร้านเองทั้งวันตั้งแต่ที่เราทำร้านแรกๆ ร้านแรกๆ เรามั่นใจว่าเราดูแลทุกกระบวนการ เราบริการลูกค้าเต็มที่แต่พอขยายสาขาไปเรื่อยๆ เราไม่สามารถไปดูแลทุกสาขาได้อยู่แล้วสิ่งที่สำคัญมากๆ คือ เราจะต้องคุยกับพนักงานอย่างไร ฝึกอบรมพนักงานอย่างไรให้เขาสามารถทำงานได้เหมือนกับที่เราไปทำเอง มีระบบต่างๆ ที่จะฝึกอบรมพนักงานให้สามารถเรียนรู้พัฒนาตัวเอง และเติบโตไปกับองค์กรได้ เราจะคุยกับพนักงานตลอดเรื่องความเป็น Partnership  ไม่ใช่แค่นายจ้างลูกจ้าง แต่เราเหมือนกับเป็นหุ้นส่วนธุรกิจกัน ซึ่งบริษัทอย่าง JONES’ SALAD เอง เราก็จะมีค่า Incentive (แรงจูงใจ) อะไรต่างๆ ที่ค่อนข้างเยอะเลยถ้าเทียบกับเงินเดือน ถ้าร้านขายดี พนักงานก็ได้เยอะด้วย ถ้าร้านขายไม่ดีเพราะโควิด-19 พนักงานก็จะเข้าใจว่าร้านขายไม่ดี รายได้ก็จะน้อยลง เป็นหลักที่เราอยู่ด้วยกัน ถ้าโตก็โตด้วยกัน ประมาณนี้ครับ

 

Covid-19 สถานการณ์ที่ไม่คาดคิดมาเยือน

ช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ธุรกิจได้รับผลกระทบค่อนข้างเยอะ ยอดขายตกไปเกินครึ่งเลย ยิ่งช่วงที่มีนโยบายปิดห้าง แล้วร้านส่วนใหญ่ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ของเราก็อยู่ในห้างด้วย ตอนนั้นก็เป็นความท้าทายมากๆ ของธุรกิจว่าจะเดินต่อได้อย่างไร
ไปต่อไปไม่รอสถานการณ์คลี่คลาย อย่างตอนนั้นเอง โดนปิดห้างแล้วจะทำอย่างไรดี ก็ใช้เวลาขับรถหาตึกแถว ตึกแถวตรงไหนว่างบ้างปิดห้างใช่ไหม เราก็มาขายข้างนอก มาเดลิเวอรีข้างนอกแทนก็ขนของจากในห้างมาเปิดในตึกแถว เปิดเป็น Cloud Kitchen (ครัวกลาง) ขายตามแอปเดลิเวอรี

 

ขายดีจนมีปัญหา

กระแสตอบรับจากลูกค้าดีเกินคาด เพราะร้านอื่นเขาปิดกัน ลูกค้าอาจจะมีตัวเลือกน้อย ไม่ว่าจะแพลตฟอร์มไหน ไรเดอร์ต่างๆ ไม่ว่าจะแกรบ ไลน์แมน โรบินฮู้ด ฟู้ดแพนด้า จอดรถเต็มหน้าตึกแถวเลยตอนแรกเพื่อนบ้านใกล้ๆ ก็โทรมาหาว่าเกิดอะไรขึ้น จะโทรไปฟ้องเขตฯนะ ก็เจรจากับเขาไปว่าเป็นแบบนี้แค่ช่วงเดียว ก็คือถ้าเรามีวิกฤตอะไร ก็รีบแก้ไปครับ บางครั้งก็เป็นโอกาสให้เราได้เจอกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ อีกด้วย

 

เพราะเป้าหมายมีไว้พุ่งชน

เป้าหมายของเราคือ อยากให้ JONES’ SALAD เป็น Top Of Mind เรื่องสลัด คือถ้ามีคนพูดถึงคำว่าสลัด ต้องคิดถึง JONES’ SALAD เป็นแบรนด์แรกๆ ซึ่งเราเชื่อว่ากว่าจะถึงจุดนั้นอย่างน้อยๆ ต้องขยายให้ได้สัก 50 สาขา ตอนนี้สาขาที่ขยายไปเรื่อยๆ เราก็ยังดูแลเองทั้งหมด JONES’ SALAD เป็นสินค้าที่ค่อนข้าง Sensitive ตอนนี้เราจึงยังไม่ได้มองในรูปแบบแฟรนไชส์ เพราะถ้าเราดูแลเอง เราจะสามารถควบคุมเรื่องคุณภาพ หรือมาตรฐานของสินค้าของเราได้ดีกว่า

 

เงินทุนหมนุเวียนเป็นเรื่องสำคัญ

ช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมาก็เหนื่อยครับ เพราะว่าเรามีพนักงานอยู่ 300 คน แล้วยอดขายไม่ได้ดีเหมือนก่อนวิกฤตโควิด-19 ทำให้เราใช้เงินส่วนใหญ่ไปดูแลพนักงานมากกว่า ซึ่งทำให้เกิดปัญหาทั้งเงินทุนหมุนเวียน หรือว่าจะลงทุนขยายสาขาเริ่มติดขัดตอนนั้นโชคดีมากที่ธนาคารไทยเครดิตติดต่อเข้ามาสิ่งที่ชอบมากๆ คือพนักงานของธนาคารไทยเครดิตรวดเร็วมาก แอคทีฟมาก และใส่ใจเรามากเขารู้ว่าเราต้องการใช้เงิน ก็บริการเราเต็มที่มาก มาหาถึงที่เลยดำเนินการให้เสร็จโดยใช้เวลารวดเร็วมากเพียง 1-2 สัปดาห์ เรียบร้อยได้รับเงินเลย ก็รู้สึกประทับใจนะครับ และดอกเบี้ยก็ไม่แพงด้วย ก็ทำให้ธุรกิจของเราไม่ติดขัด แล้วตัวเราเองก็ไม่ต้องมานั่งพะวงว่าจะมีเงินพอไหม เราจะได้ใช้เวลาโฟกัสเป้าหมายถึงการเติบโตในอนาคตของธุรกิจของเราครับ ขอบคุณธนาคารไทยเครดิตมากๆ เลยครับ

สาระ SME น่ารู้ที่เกี่ยวข้อง