SME กล้าเปลี่ยน Madameorn “เดินหน้าไม่ยอมแพ้ สร้างแบรนด์ Madameorn”

2 ธ.ค. 2565

SME Inspiration

พบกับคุณแอน กัลยรัตน์ ดวงรัตนเลิศ เจ้าของธุรกิจ ไส้กรอกอีสาน Madameorn เส้นทางธุรกิจ SME ที่ขับเคลื่อนด้วยกล้า ความกล้าในการหยิบสิ่งใกล้ตัวมาต่อยอดทางธุรกิจ ความกล้าในการคิดนอกกรอบ ความกล้าที่ไม่หวั่นแม้อุปสรรคในการทำธุรกิจที่มากมาย คุณแอนมีวิธีคิดและเคล็ดลับอย่างไรในการบริหารธุรกิจ ไปหาคำตอบกันได้ใน SME กล้าเปลี่ยน Madameorn

 



 

ความฝันในวัยเด็กเป็นแรงขับเคลื่อน

แอนเริ่มจากร้านของพ่อและแม่ที่ทำไส้กรอกอีสาน คิดค้นสูตรเอง ผลิตเอง และขายเอง ที่จังหวัดนครปฐมค่ะ ซึ่งตัวเราเองอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเองตั้งแต่เด็ก พอเรียนจบสิ่งแรกที่ทำคือต้องเก็บเงิน และต้องทำอาชีพที่สามารถเอาไปต่อยอดการทำธุรกิจของตัวเองได้

 

เตรียมพร้อมก่อนลงสนามจริง

แอนตัดสินใจสมัครงานในด้านงานขายและมาร์เก็ตติ้ง เพราะเราจะได้ออกไปหาลูกค้า ฝึกการคุย ฝึกการขาย เมื่อพร้อมแอนก็ลาออกในตอนอายุประมาณ 25 ปี แอนเข้าใจว่าทุกๆ อย่างก็มีทั้งประสบความสำเร็จและไม่ประสบความสำเร็จ แต่แอนมองว่าอายุเรายังน้อย ถ้าวันนี้เราลองสัก 2-3 ปี แล้วมันไม่เวิร์กจริงๆ ก็กลับมาทำงานเดิมได้ แต่ถ้าเราสามารถทำได้สำเร็จ เราก็สามารถทำให้ครอบครัวของเราสบายขึ้นได้

 

ไม่ย่อท้อกับสิ่งที่ทำ

สามปัญหาใหญ่ที่คนทานไส้กรอกอีสานต้องเผชิญก็คือ ข้อแรก เรื่องไขมันเยอะมาก มันหมูพอกินมากก็กลัวอ้วน กินน้อยก็ไม่จุใจ ข้อสองคือ เรื่องความสะอาด พอเป็นอาหารสตรีตฟู้ดลูกค้าก็จะกังวลเรื่องของการผลิตและความสะอาดได้ ส่วนข้อสามจะเป็นเรื่องของกลิ่น หิ้วไปไหนก็จะมีกลิ่นไส้กรอกอีสานโชยไปค่ะ เราเลยสร้างมาดามอรขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาทั้งหมดนี้ โดยระหว่าง 2 ปีที่แอนได้คิดค้นสูตรของมาดามอร ทุกเช้าแอนก็จะต้องปรับสูตรตลอด เฉลี่ยวันละ 5 -20 สูตรแล้วแต่วัน นำไปอบ ลองชม ทานไม่ได้ก็ต้องเริ่มใหม่ เป็นแบบนี้ตลอดค่ะกว่าจะเป็นสูตรในทุกวันนี้

 

คิดนอกกรอบเพื่อสร้างจุดขาย

ลูกค้าที่ทานไส้กรอกอีสานเป็นประจำ จะไม่กล้าทานบ่อย เพราะกลัวเรื่องของมันหมูที่มีมากเกินไป กลัวหุ่นจะเสีย กลัวน้ำหนักจะขึ้น และยังไม่มีใครทำไส้กรอกอีสานไขมันต่ำ แอนเลยนำสูตรของที่บ้านมาปรับให้เป็นสูตรไขมันต่ำ โดยเราตั้งใจที่จะมีไขมันต่ำกว่าสูตรทั่วไป และไม่ใส่สารรวมถึงเรายังไปส่งตรวจค่าโภชนาการเพื่อให้ลูกค้าที่ทานของเรามั่นใจจริงๆ ว่าของเราไขมันต่ำกว่าสูตรทั่วไปถึง 48 เปอร์เซ็นต์

 

ล้มแล้วลุกไม่ยึดติดกับอุปสรรค

ด้วยความที่แอนออกจากงานประจำมีแค่เงินเก็บก้อนหนึ่งที่เราเก็บมาเพื่อตั้งใจทำธุรกิจนี้ ก็จะไม่ได้มีรายได้จากทางอื่นเลย จากที่เราตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าแบรนด์มาดามอรจะต้องเป็นแบรนด์ของคนรุ่นใหม่ เราก็ศึกษาตั้งแต่เรื่องของ Packaging ว่าต้องเป็นแบบซองเพื่อตอบรับการใช้งาน สูตรก็ต้องทำให้สำเร็จไวที่สุด พอเราทำไปนานๆ เงินมันก็เริ่มหายไป จนวันหนึ่งที่เราเหลือเงินในบัญชีแค่ไม่ถึงร้อยบาทคือเหลือแค่ 28 บาท คือตอนที่เกิดปัญหา ในตอนนั้นมันแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เลย ถ้าแอนมัวแต่นั่งร้องไห้แล้วไม่หาทางแก้ ว่าแอนจะเดินหน้าต่อยังไง ธุรกิจจะเดินต่อยังไง เราต้องกลับมาสู่ Back to Basic ค่ะ ว่าโอเคนะ ตอนนี้เรามีสูตรแล้ว มันเริ่มโอเคแล้ว ก็เริ่มฮึดสู้ โดยช่วงแรกก็ไปออกบูธ ได้พูดคุยกับลูกค้าได้ทำความรู้จักกับลูกค้าโดยตรง โดยที่แอนก็จะเก็บข้อมูลว่าลูกค้าชอบสินค้าของเรามั้ย อยากให้แอนปรับอะไรเพิ่มบ้าง พอขายเสร็จในตอนเย็นแอนก็ได้เงินแล้ว ก็เอาตรงนี้มาพัฒนาหรือจัดการอย่างอื่นต่อได้ค่ะ

 

ถอยให้เป็น เพื่อรุกใหม่อีกครั้ง

พอเราทำเป็น Homemade แอนเลยตั้งใจว่าจะไม่ใส่สารเลย พวกบอแรกซ์ ดินประสิว ฟอสเฟต ไนเตรต อะไรก็ตามที่ทำให้ไส้กรอกมันอยู่ได้นานขึ้น ในช่วงแรกบางทีก็เกิดปัญหาคือพอไปถึงลูกค้าก็มีเสียบ้าง เราก็เลยตัดสินใจว่าอันนี้ไม่ได้แล้ว ยังไง Concept แอนคือไม่ใส่สารแน่นอน เราก็เลยหยุดขายทั้งหมดสามเดือน เพื่อเอาเวลาสามเดือนไปพัฒนาให้มาดามอร สามารถเก็บในอุณหภูมิปกติได้หนึ่งปีโดยไม่ใส่สารเช่นเดิมค่ะ

 

มีกลุ่มเป้าหมายเป็นใจหลัก

ผลิตภัณฑ์ของมาดามอรจะแบ่งเป็นทั้งหมด 2 กลุ่มใหญ่ๆ ค่ะ กลุ่มแรกก็คือกลุ่มของไขมันต่ำ ก็จะมีไส้กรอกอีสานสูตรไขมันต่ำแบบพร้อมทาน มีทั้งแบบเปรี้ยว และแบบไม่เปรี้ยว แล้วก็มีขิงดองสูตร 0% แคลอรี ส่วนกลุ่มที่ 2 จะเป็นกลุ่มของไร้แป้ง ไร้น้ำตาล จะเป็นไส้กรอกอีสานสูตรอกไก่ ไร้แป้ง ไร้น้ำตาล แบบเปรี้ยวและไม่เปรี้ยวค่ะ และก็มีขิงดองสูตร Keto ด้วยค่ะ ในตอนนี้ทั้งกลุ่มของไขมันต่ำและสูตรไร้แป้งไร้น้ำตาลได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีเลยค่ะ เพราะว่ายุคนี้ลูกค้าหันมาดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น ตั้งแต่เรามีเรื่องของโควิด-19 เข้ามาค่ะ ลูกค้าก็หันมาทานอาหารที่ปลอดสาร รักตัวเองมากยิ่งขึ้น เลือกทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากยิ่งขึ้น บางคนก็มาขอบคุณแอนว่า “ขอบคุณที่สร้างมาดามอรขึ้นมาให้เขาได้กินไส้กรอกอีสานในวันที่แม้เขาจะลดน้ำหนักอยู่ ถึงจะหันมาดูแลสุขภาพ แต่เขาก็ยังได้ Enjoy กับอาหารที่เขาชอบได้” แบบนั้นค่ะ

 

การเดินทางสร้างความภูมิใจ

ตอนนี้ยอดขายของมาดามอรก็จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากตั้งแต่วันแรกจนมาถึงวันนี้ ตอนนี้ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 60,000-70,000 ซองต่อเดือน มาดามอรเรามีแผนที่จะเดินไปให้ถึง 100,000 ซองต่อเดือน และก็มีเป้าหมายที่อยากจะส่งออกด้วยค่ะ อาจจะเป็น CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม) หรือประเทศอื่นๆ ที่มีความต้องการทานไส้กรอกอีสาน

 

ใช้กำลังใจเป็นแรงผลักดัน

แอนเชื่อว่าวันนี้ไม่มีใครเก่งตั้งแต่วันแรกที่เราทำ แต่เราต้องเก่งขึ้นทุกวัน กว่าตัวเองเมื่อวานนี้ค่ะ ถ้าเราทำไปเรื่อยๆ ยังไงความสำเร็จก็ต้องมาถึง ถ้าคนอื่นทำได้ เราก็ต้องทำได้ ถ้าเราทำไม่ได้คือเรายังไม่เจ๋งพอ เราก็ทำตัวเองให้เจ๋งพอกว่าเมื่อวานแค่นั้นค่ะ

สาระ SME น่ารู้ที่เกี่ยวข้อง