5 ก.ย. 2566
SME Inspiration
“เราให้ความสำคัญกับเรื่องของเวลา ถ้าเราทำงานได้รวดเร็ว ลูกค้าจะสามารถเปิดร้านได้เร็วขึ้น” คุณชัยดิษฐ์ พิริยะถาวรไชย ประธานกรรมการ บริษัท วี 45 กรุ๊ป จำกัด
พบกับคุณชัยดิษฐ์ พิริยะถาวรไชย ประธานกรรมการ บริษัท วี 45 กรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจรับก่อสร้างและตกแต่งภายใน ผู้สร้างธุรกิจให้เติบโตและมียอดขายกว่า 500 ล้านบาทในเวลา 3 ปี ด้วยการใช้แนวคิดจับเทรนด์ธุรกิจและปรับเปลี่ยนให้ตอบโจทย์ของลูกค้า จนสามารถนำพาบริษัทเติบโตขึ้นมาได้อย่างก้าวกระโดด
จุดเริ่มต้นของ V45 GROUP เกิดจากการรวม 2 บริษัทเข้าด้วยกัน ในปี 2535 เราเปิดบริษัท 168 CIVIL CONSTRUCTION มาก่อน จากนั้นก็มาเปิด V45 DESIGN ที่เป็นงานในส่วนของการตกแต่ง ก่อนจะรวมทั้งสองบริษัทด้วยกัน ภายใต้ชื่อ V45 GROUP จุดประสงค์เพื่อให้บริการลูกค้าได้แบบ One Stop Service สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบจบในที่เดียว ข้อดีของการรวมบริษัท คือ สามารถบริหารจัดการได้ง่าย และทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพอีกด้วย
การทำธุรกิจของเรานั้น ในช่วงแรกเราเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างบ้าน ก่อสร้างสำนักงาน ตกแต่งภายในร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ เหมือนผู้รับเหมาทั่วไป จากนั้นในปี 2561 ผมได้สังเกตพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป คือลูกค้าเริ่มมีการทำร้าน Stand Alone มากขึ้น
เรามองว่าการทำ Stand Alone นี่ล่ะที่น่าจะเป็นเทรนด์ และเป็นอนาคตของบริษัท ผมเลยไปค้นคว้าเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างร้าน Stand Alone ศึกษาดูงานวิจัยต่างๆ ทำให้พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคได้เปลี่ยนไปจริง คือการเดินห้างเริ่มน้อยลง และต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เป็นลูกค้าของเราจึงได้ปรับเปลี่ยนธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ให้กับลูกค้า
เมื่อจับเทรนด์ได้ เราเลยเริ่มออกแบบพัฒนาการก่อสร้าง นำวัสดุแปลกๆ หรือวัสดุที่ประหยัดเวลา เพื่อให้การทำงานก่อสร้าง กระชับ รวดเร็ว และคุ้มทุน ทำให้บริษัทมีการเติบโตจากตั้งแต่ช่วงปี 2561 ยอดขายเราอยู่ประมาณ 60-70 ล้านบาทต่อปี หลังจากนั้นเราก็มีการขยายสาขาให้กับลูกค้ามากขึ้น บริษัทก็เริ่มมีการเติบโต ตั้งแต่ปีละ 100 ล้านบาท และขยับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนปี 2565 ที่ผ่านมาเราสามารถทำยอดขายไปที่ 500 ล้านบาทต่อปีได้
จุดแข็งอีกข้อที่ทำให้เราแตกต่างจากบริษัทอื่น คือ เราไม่ใช่แค่ผู้รับเหมาทั่วไป เรามีบริการแบบ Turn Key ซึ่งประกอบด้วย บริการ 3 ด้าน
การทำงานโครงการในเดือนหนึ่ง 15-20 สาขา มันมีหลายองค์ประกอบ ในการที่ควบคุมให้ได้ทุกอย่างได้ตามเวลา ทุกแผนกจะต้องให้ความร่วมมือ สมานฉันท์กลมเกลียวในการทำงาน เราต้องมีการใช้ระบบ ERP ( Enterprise Resource Planning ) ซึ่งเป็นระบบสำหรับงานก่อสร้างโดยตรง คือทุกที่สามารถทำงานได้หมด ไม่ว่ากระทั่ง PM ที่อยู่หน้างานก็สามารถใช้โปรแกรมนี้ในการควบคุมเรื่องเวลากับงบประมาณให้สมดุลกัน ทุกสัปดาห์เราจะมีการประชุม เพื่อเช็คเรื่อง S-Curve ว่าสามารถทำได้ตามเวลาที่เราต้องการหรือไม่ หากทำไม่ได้ โปรแกรมจะตอบทันทีว่า เราผิดพลาดไปกี่วัน ช้าไปกี่นาที กี่ชั่วโมง สามารถที่จะตอบโจทย์เรื่องพวกนี้ และแก้ไขให้ทันเวลาที่เราวางแผน
บริษัทของเราให้ความสำคัญกับเรื่องของเวลา ถ้าเราทำงานได้รวดเร็ว ลูกค้าจะสามารถเปิดร้านได้เร็วขึ้น ยกตัวอย่าง บางสาขาที่เราทำสามารถสร้างร้านให้ลูกค้าให้แล้วเสร็จได้ ภายใน 22 วัน ซึ่งทุกวันนี้ต่อเดือนเรามีโครงการตั้งแต่ 15-20 สาขา เราสามารถควบคุมเวลาในการก่อสร้าง แต่ละโครงการได้ตามเป้าหมายที่ลูกค้าต้องการ บางโครงการเราสามารถทำได้เร็วกว่าที่ลูกค้ากำหนดให้อีกครับ อีกเรื่องคือ ความปลอดภัย เนื่องจากเราต้องใช้คนในการควบคุมเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบภายใน ภายนอก ซึ่งหากเกิดความผิดพลาดในการก่อสร้างขึ้นมาก็อาจจะส่งผลกระทบต่อชีวิตได้ เพราะฉะนั้น การทำงานของเราจึงมีข้อผิดพลาดไม่ได้เลย พนักงานของเราจึงต้องมีการฝึกอบรมตลอดเวลา เพื่อลดความผิดพลาดให้มากที่สุด
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เรามีการขยายธุรกิจค่อนข้างรวดเร็ว ยอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่พนักงาน 30 คน ตอนนี้เรามีพนักงานเกือบ 100 คนแล้ว พอธุรกิจเราขยาย ทางธนาคารไทยเครดิตก็เข้ามาช่วยดูแลเรื่องเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท และยิ่งตอนนี้ บริษัทกำลังสร้างสำนักงาน ทำโรงงานใหม่ ธนาคารไทยเครดิตก็เข้ามาตอบโจทย์ เรื่องเงินทุนหมุนเวียนให้บริษัทเรา และทำงานได้อย่างรวดเร็วด้วยนะครับ ภายใน 1 เดือน เขาอนุมัติเงินให้เราแล้ว ซึ่งมันเหมือน DNA เราเลยคือ เราเป็นคนทำงานเร็ว ธนาคารไทยเครดิตก็ทำงานให้เราเร็วเหมือนกัน เท่ากับ DNA ตรงกันเลยนะครับ
