25 มิ.ย. 2568
SME Inspiration
เริ่มทําธุรกิจมาตั้งแต่อายุ 26 ปี ก็เปิดร้านเล็กๆ ที่ชั้น 6 มาบุญครอง ตอนนั้นก็อยู่ในยุคของมือถือรุ่นโมโตโรลา โนเกีย แล้วก็บีบี ถือว่าเราทําธุรกิจนี้เป็นยุคแรกๆ ของโทรศัพท์มือถือเลย ช่วงนั้นก็บูมมากๆ พวกเคสโทรศัพท์เราก็บูมตามไปด้วย ช่วงนั้นเราก็เน้นขายส่งเป็นหลัก ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ยอดขายก็เป็นล้านชิ้นต่อปี ธุรกิจแอคเซสเซอรี่ก็เหมือนเป็นตัวประกอบของโทรศัพท์มือถือ แต่กลับสร้างรายได้มหาศาล ช่วงนั้นคนยังทําไม่มาก เราเลยเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่ครองตลาด
เค พลัส แอคเซสเซอรี่ เราเป็นศูนย์รวมขายอุปกรณ์มือถือและอุปกรณ์เสริม IT ต่างๆ เรามีสินค้าประเภท ฟิล์มกันรอย มีเคสโทรศัพท์ ปลั๊กชาร์จ สายชาร์จ มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างเช่น หูฟัง เฮดโฟน และก็มีอุปกรณ์เสริมถ่ายภาพ เรามีสินค้าอยู่ 14,000 รายการ ปัจจุบันมีทั้งหมด 17 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเราก็ยังมีสินค้าที่เป็นแบรนด์ของเราเองอยู่หลายแบรนด์ ฟิล์มกันรอยก็จะเป็นคิงบูล แล้วก็จะมีคอนเนค ก็จะทําพวกปลั๊กชาร์จ สายชาร์จ รวมไปถึงเคสโทรศัพท์ เราก็จะเป็นแบรนด์มูมู่
ตอนเด็กๆ ครอบครัวลําบากมาก พ่อแม่ตอนนั้นทําโรงสี เป็นหนี้ เป็นสินเยอะ ช่วงที่ลําบากก็ไม่มีอะไรจะกินเลย ก็ช่วยพ่อแม่ทํางานตั้งแต่อยู่ป.6 มันก็เลยทําให้รู้สึกว่าเราจะต้องรวย แล้วจะต้องมีเงินให้พ่อแม่ การที่เราอยากรวยได้ เราจะต้องมีแรงผลักดันก็คือ ความขยัน สู้ทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรเกิดขึ้น เราก็ทน ทนไม่พอขยันด้วย มันก็เลยเป็นส่วนสําคัญที่ทําให้เราประสบความสําเร็จ
พอมันทําธุรกิจช่วงนั้น เป็นยุคแรกๆ ของโนเกีย เราก็มองเห็นคู่แข่งเรา เขาออกเคสโทรศัพท์ประมาณ 3,4,5 สี แต่เราคิดว่าเรามีไอเดีย เราจะต้องทําสีที่หลากหลาย เราก็เลยทําสีเคสโทรศัพท์มา 10 สีก่อน ผลตอบรับดีมากเลย ก็ทําเพิ่มไปอีกเป็น 20 สี เลยค่ะ คราวนี้ยอดขายปีนั้นกระจายเลย ยอดขายมีไปเป็น 10 ล้านชิ้นได้ค่ะ
ตอนนั้นเราเปิดสาขาแรกที่มาบุญครอง พอเราเริ่มมีประสบการณ์แล้ว เราก็มองเห็นพฤติกรรมลูกค้า คราวนี้เราก็เลยเปิดอีก 3 สาขา แต่ใช้คนละชื่อเลย ลูกค้ามาร้านเรา ร้านนี้ปิดการขายไม่ได้ ไม่ซื้อใช่ไหม เดินไป 20 ก้าว ไปอีกสาขาหนึ่ง แต่เป็นร้านเดียวกันคนละชื่อ ลูกค้าก็ซื้อร้านนี้ กลยุทธ์ขายส่งก็เหมือนกัน ร้านขายส่งที่เสือป่าก็มี 4 ร้านเหมือนกัน คนละชื่อเลย ลูกค้าชอบผู้จัดการร้านที่นี่ ก็ซื้อส่งร้านนี้ ฉันไม่ชอบเธอไปซื้ออีกร้านหนึ่ง ก็เป็นร้านเราเหมือนกัน นี่คือหนึ่งกลยุทธ์ทําให้ธุรกิจเราประสบความสําเร็จ
ธุรกิจอุปกรณ์มือถือเป็นธุรกิจที่แข่งขันสูงมาก การทําธุรกิจความเร็วในความคิด แล้วก็เรื่องกลยุทธ์หลายๆ อย่างสําคัญมากๆ บางทีเราวางแผนว่า โอเคเราจะวางโปรโมชันแบบนี้ แต่พอยอดขายไม่มา เราเปลี่ยนกลยุทธ์ เราก็เปลี่ยนทันตาเห็นเหมือนกัน ถ้าเราไม่เปลี่ยนเร็ว เราอยู่ในธุรกิจนี้ไม่ได้แน่นอน
จุดเด่นของเค พลัส แอคเซสเซอรี่ อันดับแรกเลย คือ สินค้าที่วางจําหน่ายในร้าน เราคัดมาอย่างดี คุณภาพกับราคาเหมาะสมมากๆ แล้วเราก็มีให้เลือกหลายรายการ นอกจากตัวนี้ เราก็จะมีเทรนด์พนักงานให้รู้สินค้าจริง แล้วก็สามารถอธิบายลูกค้าได้ แล้วลูกค้าซื้อไปใช้ที่บ้านก็ถูกใจ ลูกค้าก็จะไปบอกต่อ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวหรือเพื่อน ลูกค้าก็จะเป็นลูกค้าบอกต่อแล้วกลับมาใช้บริการ มันก็ทําให้ธุรกิจ เค พลัส ของเรา โตไปเรื่อยๆ ยอดขายก็ไม่ตก ด้วยสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ยอดขายเราไม่ได้ตกเลยค่ะ
พอเราทําธุรกิจเดิมมาได้สักพัก เราก็ต่อยอดมาทําพวกธุรกิจอสังหาฯ ก็จะมีโรงแรม 2 โรงแรม ปีนี้ก็ทําหอพักหญิง ก่อสร้างมาประมาณ 2 ปี แต่ปิดการขายประมาณ 7 วัน อันนี้ก็ คือ มันบอกให้เรารู้สึกว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่เราทุ่มเท เราเข้าใจลูกค้า ไม่ว่าคุณจะทําธุรกิจอะไรก็ตาม คุณต้องดูก่อนว่าลูกค้าคุณชอบอะไร พอเราทําในสิ่งที่เขาชอบ ราคาได้ คุณภาพดี อย่างไรก็ขายออก ไม่ว่าคุณทําธุรกิจอะไร
เมื่อก่อนทําธุรกิจไม่เคยคิดถึงสินเชื่อธนาคารเลยค่ะ แต่พอมา ณ วันนี้ ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป แล้วเราอยากจะเติบโต เราอยากจะขยายสาขามากขึ้น ซึ่งเปิดสาขา 1 สาขาใช้เงินเกือบ 10 ล้านบาท คราวนี้ถ้าเราไม่มีสินเชื่อธนาคารมา เราก็ไม่สามารถโตได้ในธุรกิจนี้ ซึ่งพอเราได้คุยกับธนาคารไทยเครดิตแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดอกเบี้ย และการบริการของพนักงานธนาคาร อยากจะบอกว่าประทับใจจริงๆ คือ รวดเร็ว ทันใจ และบริการดีมากๆ เลยค่ะ สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณธนาคารไทยเครดิต ที่มอบสินเชื่อให้บริษัท เค พลัส แอค เซสเซอรี่ เพื่อที่จะมาทําให้ธุรกิจเราโตขึ้น แล้วสภาพคล่องดีขึ้น ต้องขอบคุณธนาคารไทยเครดิตมากเลยค่ะ
