การตั้งชื่อบริษัทเป็นขั้นตอนสำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจ เพราะเปรียบเสมือนหน้าตาของธุรกิจ การตั้งชื่อที่ดีจะช่วยสร้างการจดจำและดึงดูดลูกค้าได้ ซึ่งเรามีเทคนิคง่ายๆ รวมถึงสิ่งที่ SME จะต้องระวังเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทีหลังดังนี้  

เทคนิคการตั้งชื่อ 

1. ชื่อที่สื่อถึงเอกลักษณ์ของธุรกิจ
ชื่อบริษัทควรสะท้อนถึงสินค้าหรือบริการที่นำเสนอ และบ่งบอกถึงคุณค่าที่ธุรกิจมี เช่น หาก SME ทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ชื่อบริษัทควรสื่อถึงความอร่อย ความสดใหม่ หรือความน่าสนใจของอาหาร
2. สั้น กระชับ ออกเสียงง่าย
ชื่อที่สั้น กระชับ ง่ายกับการออกเสียงจะช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้เร็ว และไม่สับสนในการเรียกชื่อบริษัท ควรเลือกชื่อที่มีความยาวไม่เกิน 2-3 พยางค์ หรือหากเป็นชื่อภาษาอังกฤษไม่ควรเกิน 3 คำ
3. ชื่อไม่ซ้ำกับใคร
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าชื่อบริษัทไม่ซ้ำกับธุรกิจอื่น โดยเฉพาะธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน สามารถตรวจสอบชื่อบริษัทได้จากเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือจากฐานข้อมูลเครื่องหมายการค้า 
4. คำที่สื่อความหมายในเชิงบวก
เลือกชื่อที่มีความหมายที่ดีและไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ชื่อที่มีความหมายในเชิงบวกจะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจของคุณ รวมถึงยังช่วยเสริมความเจริญรุ่งเรืองได้อีกด้วย เช่น การใช้อักษรมงคลตามดวงชะตาเกิดของเจ้าของกิจการ 
5. ชื่อที่เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย
พิจารณาว่ากลุ่มเป้าหมายเป็นใคร และชื่อบริษัทของคุณดึงดูดพวกเขาได้หรือไม่ หากกลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นคนรุ่นใหม่ ชื่อบริษัทควรมีความทันสมัยและน่าสนใจ
6. ชื่อที่ใช้ได้ในระยะยาว
เลือกชื่อที่ไม่ล้าสมัยและสามารถใช้ได้ในอนาคต สำหรับการขยายธุรกิจ ชื่อที่ทันสมัยเกินไป หรือมีคำแสลงอาจไม่เหมาะสมในอีก 5-10 ปีข้างหน้า

สิ่งที่ต้องระวังในการตั้งชื่อธุรกิจ

•    หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อที่เกี่ยวข้องกับราชวงศ์ หรือหน่วยงานราชการ
•    หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อที่สื่อถึงการพนัน หรือสิ่งผิดกฎหมาย
•    หลีกเลี่ยงการใช้ชื่อหรือนามสกุลตัวเอง การใช้ชื่อส่วนตัวทำให้ธุรกิจดูเล็ก และอาจส่งผลต่อการขยายธุรกิจหรือการหาพาร์ตเนอร์ในอนาคต 
•    ไม่ใช้ชื่อที่ใกล้เคียงกับบริษัทที่มีชื่อเสียง
 

ที่มาข้อมูล :  itax