8 ส.ค. 2568
SME Playbook
รู้หรือไม่ ว่าพฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวันของเรา ตั้งแต่ตื่นนอน อาบน้ำ เดินทางไปทำงาน กินข้าว ล้วนมีส่วนก่อให้เกิด “คาร์บอนฟุตพริ้นต์” (Carbon Footprint) หรือปริมาณก๊าซเรือนกระจกในอากาศแทบทั้งนั้น และเมื่อหลายคนทำกิจกรรมแบบเดียวกัน ซ้ำ ๆ ทุกวัน
1. อาบน้ำ ถ้าเราอาบน้ำด้วยฝักบัว จะใช้น้ำไม่เกิน 20 ลิตร ต่อครั้ง / ต่อคน แต่ถ้าล้างหน้าโดยเปิดน้ำทิ้งไว้ต่อเนื่องจะใช้น้ำถึง 18 ลิตร ซึ่งถ้าทำแบบนี้ทุกวันใน 1 ปี เราจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 5.2 kgCO2eq
2. แปรงฟัน โดยใส่น้ำในแก้วเพื่อบ้วนปาก จะใช้น้ำพียง 0.51 ลิตร แต่ถ้าแปรงฟันและเปิดน้ำทิ้งไว้ไปด้วย จะสิ้นเปลืองน้ำถึง 9 ลิตรต่อนาที ซึ่งถ้าทำแบบนี้เป็นประจำทุกวัน วันละ 4 นาที ตลอด 1 ปี เราจะปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากถึง 10.4 kgCO2eq (Emission Factor ของ CFP : น้ำประปา-การประปานครหลวง)
3. กิน
· กินชีสเบอร์เกอร์เนื้อ 1 ชิ้น จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกถึง 3.20 kgCO2eq
· กินซีซาร์สลัด 1 จาน จะปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียงแค่ 0.43 kgCO2e
· กินอาหารไม่หมด และนำไปทิ้งในบ่อฝังกลบขยะ จะทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกถึง 25.3 kgCO2eq จากขยะเศษอาหารเพียง 10 กิโลกรัม
1.เลือกซื้อและกินอาหารแต่พอดี วางแผนในการทำอาหาร หรือรับประทานอาหาร โดยสั่งในปริมาณที่เหมาะกับจำนวนคน เพื่อลดขยะจากเศษอาหารที่เหลือทิ้ง
2. ลดการใช้ไฟฟ้าอย่างสิ้นเปลือง
ปิดไฟเมื่อไม่ใช้งาน ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งาน เลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากประหยัดพลังงานเบอร์ 5 สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้มากกว่าที่คิด
3. เลือกเดินทางแบบรักษ์โลก
ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ใช้รถสาธารณะ เดิน หรือปั่นจักรยานแทนถ้าจำเป็นต้องขับรถ ควร ตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมเสมอ และพิจารณาใช้รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ซึ่งปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าในระยะยาว
4. จัดการขยะอย่างถูกวิธีแยกขยะก่อนทิ้ง โดยเฉพาะขยะอินทรีย์ที่สามารถนำไปทำปุ๋ยหมักได้
ขยะที่ย่อยสลายไม่ได้เมื่อฝังกลบจะปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่รุนแรงกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า
5. เปลี่ยนจาก “ใช้แล้วทิ้ง” เป็น “ใช้ซ้ำ”
พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว เช่น ถุง หลอด แก้วพลาสติก หรือช้อนส้อมพลาสติก ล้วนใช้พลังงานในการผลิตและขนส่งสูงมากลองเปลี่ยนมาใช้ถุงผ้า แก้วน้ำพกพา หรือภาชนะที่ใช้ซ้ำได้ จะช่วยลดการปล่อยก๊าซจากกระบวนการผลิตและขยะที่ฝังกลบ
ที่มาข้อมูล : climatecare , tgo , muangthaicap