ลดงานที่ซ้ำซากในธุรกิจด้วย Hyper Automation

22 ม.ค. 2568

SME Playbook

Hyper Automation เป็นเทคโนโลยีที่นำเทคโนโลยีต่างๆ มาผสมผสานกัน เพื่อสร้างระบบอัตโนมัติ ช่วยลดงานที่ซ้ำซาก เพิ่มประสิทธิภาพ และความแม่นยำในการทำงาน รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังจำเป็นสำหรับ SME ที่ต้องการเติบโตและอยู่รอดในยุคดิจิทัล


เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ Hyper Automation มีอะไรบ้าง?

  • RPA (Robotic Process Automation) การใช้ซอฟต์แวร์หุ่นยนต์มาทำซ้ำงานที่มนุษย์ทำ
  • AI (Artificial Intelligence):ปัญญาประดิษฐ์ที่ช่วยในการเรียนรู้และปรับปรุงระบบอัตโนมัติให้ดีขึ้น
  • Machine Learning การเรียนรู้ของเครื่องที่ช่วยให้ระบบสามารถเรียนรู้จากข้อมูลและปรับปรุงตัวเองได้
  • IoT (Internet of Things)อุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ


ตัวอย่างการนำ Hyper Automation ไปใช้ในธุรกิจ

  • อุตสาหกรรมการผลิต ใช้ในการควบคุมกระบวนการผลิต, การตรวจสอบคุณภาพ และการจัดการคลังสินค้า
  • อุตสาหกรรมบริการ ใช้ในการจัดการลูกค้าสัมพันธ์, การตลาดออนไลน์ และการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า
  • อุตสาหกรรมการเงิน ใช้ในการประมวลผลธุรกรรมทางการเงิน, การตรวจสอบความเสี่ยง และการให้คำแนะนำทางการเงิน


4 ผลลัพธ์ของการใช้ Hyper Automation

1. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน:

  • ลดต้นทุน ด้วยระบบอัตโนมัติ ทำให้ลดจำนวนพนักงานที่ต้องมาทำงานซ้ำๆ และลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการทำงานของมนุษย์
  • เพิ่มความเร็ว กระบวนการทำงานต่างๆ จะรวดเร็วขึ้น ทำให้สามารถส่งมอบสินค้าหรือบริการได้เร็วขึ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทันท่วงที
  • ลดเวลาในการทำงาน พนักงานจะมีเวลาเหลือไปทำงานอื่นๆ ที่มีความสำคัญและสร้างสรรค์มากขึ้น เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

2. ปรับปรุงคุณภาพของงาน:

  • เพิ่มความแม่นยำ ระบบอัตโนมัติมีความแม่นยำสูง ทำให้ลดความผิดพลาดในการทำงาน และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าและบริการ
  • เพิ่มความสม่ำเสมอ ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ได้จะมีคุณภาพที่สม่ำเสมอ ตรงตามมาตรฐานที่กำหนด

3. ช่วยในการตัดสินใจ:

  • วิเคราะห์ข้อมูล ระบบสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว และนำเสนอผลลัพธ์ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ทำให้ผู้บริหารสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • คาดการณ์แนวโน้ม สามารถทำนายแนวโน้มในอนาคตได้ ทำให้ธุรกิจสามารถวางแผนและเตรียมตัวรับมือกับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที

4. ปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัล:

  • เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน  ทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ตอบสนองความต้องการของลูกค้า  สามารถปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างรวดเร็ว


Hyper Automation เป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถช่วยให้ SME เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพของงาน และปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การนำ Hyper Automation มาใช้ต้องอาศัยการวางแผนและการลงทุนที่เหมาะสม


ที่มาข้อมูล : iconext

สาระ SME น่ารู้ที่เกี่ยวข้อง