สร้างคนให้เกิด ปั้นแบรนด์ให้ดัง ด้วยกลยุทธ์ Personal Branding

3 ก.ค. 2567

SME Playbook

ทุกวันนี้ การจะเป็นคนคนดังไม่จำเป็นต้องเริ่มจากการเป็นดาราเสมอไป เพราะโซเชียลมีเดียในตอนนี้สามารถปั้นคนธรรมดาให้กลายเป็นที่รู้จักขึ้นมาได้ เรียกกลยุทธ์นี้ว่าเป็นการทำ Personal Branding หรือ การสร้างตัวตนของคนๆ หนึ่งให้เกิดขึ้นมา และเป็นตัวแทนของแบรนด์สินค้า หรือเปลี่ยนเจ้าของแบรนด์ให้กลายเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าตัวเอง เหมือนถ้าคิดถึง Facebook เราจะนึกถึง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ถ้าพูดถึงเรื่อง Apple ก็จะนึกถึงสตีฟ จอบส์ นั่นเอง


Personal Branding คืออะไร?

การทำ Personal Branding เป็นวิธีการทำการตลาดวิธีหนึ่ง ด้วยการใช้บุคคลในการสร้างแบรนด์ โดยดึงเอาเอกลักษณ์ ตัวตน ทักษะและประสบการณ์ของคนๆ หนึ่งขึ้นมาเป็นจุดขาย เพื่อดึงดูดให้คนรู้จักกลายเป็นตัวแทน หรือภาพจำของสินค้าและแบรนด์

ยกตัวอย่างแบรนด์ที่มีการทำ Personal Branding ที่เห็นได้ชัด เช่น Facebook ที่แค่ได้ยินชื่อก็ทำให้นึกถึง มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ในทันที หรือถ้าในประเทศไทย ถ้าพูดชื่อคุณตัน ภาสกรนที เราก็จะรู้จักว่าเป็นเจ้าของแบรนด์ อิชิตัน ฯลฯ

 


การทำ Personal Branding ช่วยธุรกิจได้อย่างไร?

  1. ทำให้ผู้บริโภคมองเห็นคาแรกเตอร์ หรือภาพลักษณ์ของแบรนด์ชัดขึ้น ผ่านการสร้างภาพลักษณ์จากบุคคล
  2. ทำให้เกิดความเชื่อถือ ไว้วางใจในแบรนด์สินค้า ซึ่งส่วนใหญ่การทำ Personal Branding จะเป็นการทำผ่านเจ้าของแบรนด์ ที่สร้างตัวเองให้โดดเด่นขึ้นมาในฐานะผู้เชี่ยวชาญ เช่น การให้ความรู้ เทคนิคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ หรือแชร์ประสบการณ์ในการทำธุรกิจของตัวเอง
  3. เกิดพลังในการโน้มน้าว ทำให้คนเชื่อมั่นในสินค้า
  4. สามารถเข้าถึงและใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น ทำให้เกิดเป็นความผูกพันขึ้นกันในระยะยาว

เทคนิคการทำ Personal Branding

สิ่งที่จะช่วยให้การทำแบรนด์ผ่านตัวบุคคลประสบความสำเร็จได้นั้น SME จะต้องหา 4 สิ่งนี้ให้เจอเสียก่อน

  1. สร้างเอกลักษณ์ และตัวตนที่อยากจะสื่อสารออกไป ส่วนใหญ่จะเน้นขายความเป็นตัวของตัวเอง สิ่งที่ถนัด จุดเด่นที่จะสามารถใช้สร้างคอนเทนต์เพื่อโปรโมตได้และทำให้คนเชื่อได้ เช่น หากคาแรกเตอร์ของคุณเป็นคนที่นิ่ง เคร่งขรึม หรือจริงจังอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนตลก ร่าเริง แต่ใช้จุดเด่นของตัวเองนี่ล่ะ ในการให้ข้อมูลความรู้จากสินค้า หรือธุรกิจที่คุณทำอยู่ ให้เป็นจุดขายสร้างความน่าเชื่อถือได้ ฯลฯ
  2. หากลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับตัวตนของคุณ ถ้ามีของแล้วแต่หาลูกค้าไม่เจอก็ขายไม่ได้ การกำหนดกลุ่มเป้าหมายเพื่อสื่อสารก็ใช้วิธีเดียวกับการยิงแอดโฆษณาในโซเชียลมีเดียนั่นล่ะ คุณจะต้องกำหนด อายุ เพศ การศึกษา อาชีพ ไลฟ์สไตล์ของผู้ที่จะสื่อสารด้วย เพื่อสร้างคอนเทนต์และส่งไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
  3. สร้างตัวตนในโลกออนไลน์ ด้วยการใช้แพลตฟอร์มในโซเชียลมีเดีย อย่าง TikTok , Instagram , Facebook , Youtube โดยผลิตคอนเทนต์ออกมาในรูปแบบของคลิปวิดีโอ , คลิป Reels เพราะสามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนให้สนใจตัวตนของคุณได้ดีกว่าการทำเป็นภาพนิ่ง หรือ โค้ดคำพูด
  4. สื่อสารอย่างต่อเนื่อง ความถี่ในการลงคอนเทนต์ มีส่วนสำคัญอย่างมากที่จะช่วยให้การสร้างตัวตนของคุณประสบความสำเร็จ และทำให้คนจดจำคุณได้เร็วขึ้น เพราะฉะนั้นจึงควรมีการวางแผนเพื่อจัดทำคอนเทนต์ในการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น วีดีโอ ภาพ แนะนำให้วางแผนเป็นรอบเดือน เช่น
    -TikTok ลงคลิปสั้น 1-2 นาที ทุกวัน
    -Youtube 1-2 วิดีโอ ทุกอาทิตย์
    -Instagram โพสต์ภาพและ Instagram Story ทุกวัน
    -Facebook โพสต์ภาพและวิดีโอ 1-2 โพสต์ทุกวัน ฯลฯ
  5. เพิ่มเครือข่าย เป็นหนึ่งในเทคนิคที่จะช่วยเปิดการมองเห็นและเพิ่มผู้ติดตามคุณในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะไปกดติดตามคนอื่น หรือเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจ เช่น กิจกรรมงานสัมมนาที่จะทำให้รู้จักผู้ประกอบการคนอื่นๆ ซึ่งอาจทำ Personal Branding เช่นเดียวกับคุณอยู่ ทำให้เกิดความร่วมมือ หรือแลกเปลี่ยนคอนเทนต์ และทำให้คุณเป็นที่รู้จักเพิ่มมากขึ้นจากเครือข่ายของเพื่อนธุรกิจคนอื่นๆ
     


กลยุทธ์การทำ Personal Branding เป็นเพียงหนึ่งในเทคนิคของการสร้างแบรนด์ที่ไม่ได้บังคับว่าทุกธุรกิจจะต้องมี หรือทำ เพราะแต่ละธุรกิจต่างก็มีสไตล์ จุดแข็ง และจุดอ่อนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความพร้อมของผู้เป็นเจ้าของแบรนด์ด้วยว่าต้องการใช้กลยุทธ์นี้ช่วยปั้นแบรนด์ให้โตอย่างกว้างขวางด้วยหรือไม่ และเมื่อมีข้อดีแล้ว ย่อมต้องมีข้อเสียตามมาด้วยเช่นกัน โดย SME จะต้องระมัดระวังในเรื่องของการดูแลภาพลักษณ์ ที่จะไม่ทำให้ถูกมองในด้านลบ และย้อนกลับมาทำร้ายแบรนด์ของตัวเองทีหลังนั่นเอง


ที่มาข้อมูล :  mgronline , thaiwinner

สาระ SME น่ารู้ที่เกี่ยวข้อง